ศุลกากรชงคลังลดภาษีนำเข้าสินค้าอีกพันรายการ ตามกรอบดับเบิลยูทีโอ เปิดตัว”อีล็อค”เม.ย.นี้

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมเสนอไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อลดภาษีนำเข้าสินค้าระยะที่ 2 ใน 56 หมวดสินค้า จำนวน 1 พันรายการ เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) คาดว่าจะทำให้กรมศุลกากรสูญเสียรายได้ประมาณ 3-4 พันล้านบาท ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2556-57 ปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าที่เป็นวัตถุดิบ สินค้าทุนไปแล้ว 1,500 รายการ เสียหายรายได้ 5-6 พันล้านบาท ดังนั้น ในอนาคตการจัดเก็บรายได้ของกรมจะไม่ปรับขึ้นกว่าที่เก็บอยู่ 1 แสนล้านบาท ซึ่งกรมพยายามดูแลรายได้ให้อยู่ในระดับนี้

ทั้งนี้ ต่อไปภาษีวัตถุดิบ สินค้าทุน มีอัตราภาษีที่ 0% สินค้าขั้นกลาง มีอัตราภาษีนำเข้าที่ 3% และสินค้าสำเร็จรูป มีอัตราภาษีที่ 7% หรือ 10% แล้วแต่กรณี หากเป็นสินค้าสำเร็จรูปบางตัว อาจเป็นสินค้าขั้นกลางหรือวัตถุดิบในอีกอุตสาหกรรมหนึ่ง อัตราภาษีจะอยู่ 10% เพื่อดูแลผู้ผลิตภายในประเทศ ซึ่งโครงสร้างภาษีนำเข้าดังกล่าว เป็นการปรับจากโครงสร้างภาษีนำเข้าเดิมที่ไทย เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2542 ที่กำหนดภาษีนำเข้าวัตถุดิบ ที่ 1% ภาษีนำเข้าสินค้าขั้นกลางที่ 5% และภาษีสินค้าสำเร็จรูปที่ 10%

“ปัจจุบันบทบาทของกรมศุลกากร กำลังเปลี่ยนจากบทบาทการจัดเก็บภาษี แต่ขณะนี้การจัดเก็บรายได้ของกรมลดต่ำลง กว่ากรมสรรพากรและกรมสรรพสามิต บทบาทหลักต่อไปในอนาคต คือ การเป็นผู้อำนวยความสะดวกทางการค้า การปกป้องสังคม จากการนำเข้าสินค้าที่เป็นอันตรายต่อประชาชน และการป้องกันการรั่วไหลของภาษี รวมถึงจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม แทนกรมสรรพากร”  นายกุลิศกล่าว

นายกุลิศกล่าวว่า กรมกำลังจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ระหว่าง 2559-2563 ทำให้กระบวนการผ่านพิธีการศุลกากรถูกเชื่อมโยงข้อมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น พร้อมเพิ่มจำนวนเครื่องเอกซเรย์สินค้า เพื่อตรวจสอบสินค้านำเข้าและส่งออก รวมถึงการเพิ่มซีซีทีวีให้มากขึ้นอีก 400 ตัว จากปัจจุบันจำนวน 1.67 พันตัว นอกจากนี้ ได้ปรับปรุงการตรวจปล่อยสินค้านำเข้าจากท่าเรือ จาก 4-5 วัน ให้เหลือ 3 วันกับ 4 ชั่วโมง เป็นส่วนหนึ่งด้านอำนวยความสะดวกธุรกิจ (Ease of doing business) ที่ธนาคารโลกจะเข้าประเมินประเทศไทยในเดือนเมษายนนี้

Advertisement

นายกุลิศกล่าวว่า กับกรมจะเปิดตัวระบบอีล็อค (e-lock) กับสินค้าผ่านแดน เพื่อดูแลสินค้าไม่ให้เล็ดลอดมาขายในไทย เพราะพบว่ามีสินค้าบางประเภทที่เป็นที่นิยม คือ รองเท้า กระเป๋า แม้แต่ตุ๊กตาลูกเทพ ที่แจ้งว่าเป็นสินค้าผ่านแดน แต่เอามาขายในไทย เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี โดยนำร่องใช้ระบบอีล็อค ระหว่างท่าเรือแหลมฉบัง ที่จะขนไปลาว ผ่าน จ.มุกดาหาร และ จ.นครพนม ซึ่งเดิมใช้ลวดพันไว้ที่ตู้คอนเทนเนอร์ขนย้าย ของใหม่ใช้ไอทีเข้าช่วย และมีจีพีเอสติดไว้ที่ลวดด้วย โดยจะเชื่อมระบบอีล็อคมาที่ศูนย์ของกรม ดังนั้น หากมีการเปิดตู้ระหว่างทางจะทราบทันที รวมถึงจะมีการดูว่ารถบรรทุกที่ขนสินค้าดังกล่าวออกนอกเส้นทางหรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image