“เคจีไอ” ประเมินหุ้น 4 กลุ่ม ‘พลังงาน-ท่องเที่ยว-สายการบิน-ค้าปลีก’ ผลประกอบการไตรมาส 4/60 โดดเด่น

นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ประเมินว่ามีโอกาสสูงที่จะเข้าสู่การพิจารณาวาระสุดท้ายของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ตามกรอบเดิมที่วางไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ว่าจะต้องนำร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเข้าสู่สภาฯ ภายใน 60 วัน ซึ่งผลจากการบังคับใช้กฎหมายจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น และมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง และอีกปัจจัยที่จะต้องติดตามคือเรื่องการเลือกตั้ง แม้ว่าช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดมีความกังวลเรื่องนี้ แต่หากมีเหตุผลที่เหมาะสมและมีความชัดเจนว่าจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป 2-3 เดือน คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุน

นายรักพงศ์กล่าวว่า และอีกปัจจัยที่ต้องติดตามในขณะนี้คือ การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4/2560 มองว่าอุตสาหกรรมที่โดดเด่นและมีกำไรตามเป้า ได้แก่ 1.กลุ่มพลังงาน โรงกลั่น และปิโตรเคมี ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น 2.กลุ่มท่องเที่ยว จากฤดูไฮซีซั่นในข่วงปลายปี 3.กลุ่มขนส่งและสายการบิน เป็นผลจากการท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน และ 4.กลุ่มค้าปลีก จากการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นผู้บริโภค และภาพรวมเศรษฐกิจที่ขยายตัว ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าได้รับผลกระทบทำให้ผลประกอบการลดลง ได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ตามแรงกดดันของค่าเงินบาทแข็งค่า และกลุ่มอาหารและการเกษตร จากปัจจัยราคาเนื้อสัตว์ที่ลดลง

“กลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ นักลงทุนควรจะเน้นซื้อหุ้นขนาดกลางที่ผลประกอบการไตรมาส 4/2560 โดดเด่น หรือหุ้นปันผลโดดเด่น เนื่องจากหุ้นขนาดใหญ่มีการปรับขึ้น (อัพไซด์) จำกัด โดยมองว่าหุ้นเด่นในสัปดาห์นี้ ได้แก่ PLANB , COM7 ,LH

 

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image