กคช.เดินหน้าดัชนีศก.ชุมชนหวังตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย

นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กคช.ได้พัฒนาดัชนีเศรษฐกิจชุมชนขึ้นมา โดยได้แยกออกเป็น 2 กลุ่มคือ 1.ชุมชนผู้มีรายได้น้อย และ 2.ชุมชนการเคหะแห่งชาติ ซึ่ง กคช.มีแผนที่จะประกาศให้ทราบทุกเดือนหรือเดือนเว้นเดือน ซึ่งจากการวัดผลครั้งล่าสุดนั้นพบว่าอยู่ที่ระดับ 47.40 ซึ่งดีกว่าเมื่อเทียบกับดัชนีเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า หากนโยบายลงไปถึงชุมชนและตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้ จะส่งผลต่อความพึงพอใจของประชาชนมากขึ้น ทั้งนี้ ภาครัฐควรออกนโยบายที่มุ่งเน้นรายละเอียดมากขึ้น เช่น นำเงินไปลงทุนในชุมชนเพื่อทำตลาดประชารัฐ หรือพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน จะส่งผลต่อความพึงพอใจมากกว่าการกระจายเงินออกไปทั่วชุมชนจนเห็นผลไม่ชัดเจน

นายธัชพลกล่าวว่า นับตั้งแต่การก่อตั้ง กคช.มา 45 ปีนั้น กคช.ได้มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยแล้วจำนวน 724,985 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านเอื้ออาทร 278,602 ยูนิต โครงการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด 233,964 ยูนิต โครงการเคหะชุมชน 158,834 ยูนิต โครงการเคหะข้าราชการ 50,108 ยูนิต โครงการมหาวิทยาลัยราชภัฏ 2,347 ยูนิต โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ 845 ยูนิต และโครงการแก้ไขวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ 285 ยูนิต โดยในปี 2561 จะเน้นพัฒนาการดำเนินงานใน 4 ด้าน คือ 1.การบูรณาการทำงานจากทุกภาคส่วนทั้งในและนอกกระทรวง 2.สร้างกลไกการเงินให้ผู้มีรายได้น้อย เช่น กองทุนช่วยเหลือผู้ที่อยากซื้อบ้านแต่กู้ธนาคารไม่ผ่าน 3.สร้างที่อยู่อาศัยเป็นรายกลุ่ม เช่น บ้านกตัญญู เน้นให้กับกลุ่มข้าราชการ แต่บางส่วนก็เปิดประชาชนทั่วไป 4.เน้นนวัตกรรมในการก่อสร้างมากขึ้น ทั้งความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลักดันนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ที่ขณะนี้มีแอพพลิเคชั่น NHA Service ที่อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าของ กคช.

“นอกจากนี้ จะร่วมมือกับเอกชน ในการพัฒนานวัตกรรมด้านต่างๆ มากขึ้น เช่น ด้านพลังงาน ได้หารือกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และกลุ่มเอสซีจี ส่วนการสื่อสารได้หารือกับกลุ่มทรูฯเป็นต้น” นายธัชพลกล่าว

นายธัชพลกล่าวว่า สำหรับโครงการที่จะดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย 10 ปี (พ.ศ.2559-2568) ของ กคช.ประกอบด้วย 1.โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง จัดสร้างอาคารพักอาศัย 36 อาคาร รวม 20,292 ยูนิต 2.โครงการบ้านเคหะประชารัฐ สำหรับปีงบประมาณ 2561 ตั้งเป้าหมายขาย 13,301 ยูนิต ปัจจุบันขายได้ 4,650 ยูนิต 3.โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยของหน่วยงานรัฐ มีจำนวน 2 โครงการ ใน จ.สงขลา และจ.ปัตตานี รวมทั้งสิ้น 606 ยูนิต 4.โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน เป็นโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ดำเนินการแล้ว 34,394 ยูนิต โดยขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 13,119 ยูนิต 5.โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ระยะแรกโครงการประชานิเวศน์ 3 จำนวน 556 ยูนิต และโครงการลำลูกกา คลอง 2 จำนวน 820 ยูนิต ระยะที่ 2 คือโครงการบริเวณเคหะชุมชนร่มเกล้า ประมาณ 3,000 ยูนิต ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการให้ภาคเอกชนร่วมลงทุน(พีพีพี) 6.โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย จะจัดทำโครงการอาคารเช่าอีก 6,948 ยูนิต 7.โครงการที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุที่มีรายได้ปานกลาง ใน 3 พื้นที่ คือ พื้นที่คลองหลวง 1 และ 2 จ.ปทุมธานี จำนวน 360 ยูนิต พื้นที่ ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จำนวน 360 ยูนิตและพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จำนวน 360 ยูนิต

Advertisement

นายธัชพลกล่าวว่า 8.โครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ มี 6 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมร่มเกล้า โครงการเชิงพาณิชย์ในโครงการเคหะชุมชนเชียงใหม่ (หนองหอย) โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 3 และ 4 โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสวัสดิการข้าราชการปทุมธานี (ลำลูกกา) โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสวัสดิการข้าราชการสมุทรปราการ (บางเสาธง) และโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระยะที่ 3 ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ และ 9.โครงการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ตั้งเป้าหมายปรับปรุงสภาพแวดล้อมชุมชน จำนวน 100 ชุมชน รวมทั้งสิ้น 30,000 ยูนิต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image