‘ณพ ณรงค์เดช’ จ่อดำเนินคดีกุข่าวบ.วินด์ฯถูกฟ้องโกง2หมื่นล. ยันข้อมูลเท็จ

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นายณพ ณรงค์เดช รองประธานคณะกรรมการ บริษัทวินด์ เอนเนอร์ยี โฮลดิ้ง จำกัด แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการที่ตนและครอบครัวถูกบริษัท ซิมโฟนี พาร์ทเนอร์ จำกัด บริษัท เน็กซ์โกลบอล อินเวนเมนท์ส จำกัด บริษัท ไดนามิค ลิงค์ เวนเจอร์ส จำกัด ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องอาญาในความผิดฐานร่วมกันโกงเจ้าหนี้ มูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านบาท ว่า ข่าวดังกล่าวมุ่งทำให้ตนเองและบริษัทได้รับความเสียหาย และเป็นการยั่วยุให้มีผู้เสียหายบางคนเตรียมการดำเนินคดีต่อผู้เป็นโจทก์และบุคคลที่เกี่ยวข้อง

นายณพ กล่าวว่า มูลเหตุที่เกิดการฟ้องเท็จและสร้างเรื่องให้เป็นข่าวในหนังสือพิมพ์นั้น สืบเนื่องมาจากผู้ขายหุ้นประสบปัญหาจนต้องลี้ภัยในต่างประเทศ จึงได้ไปเร่ขายหุ้นให้แก่ผู้อื่นหลายราย แต่ไม่อาจขายได้ เพราะในขณะนั้น สภาพกิจการไม่อาจดำเนินการต่อไปได้ กลุ่มบริษัทของตนจึงรับความเสี่ยงเข้าซื้อหุ้นไว้ ซึ่งต่อมา กิจการได้ถูกฟื้นฟูให้ดีขึ้น

“ผู้ขายหุ้นเกิดความโลภที่อยากได้หุ้นคืน แม้จะได้รับเงินค่าหุ้นงวดแรกไปแล้วนับพันล้านบาทก็ตาม จึงหาเหตุสร้างเรื่องเป็นคดีความเพื่อทำลายการซื้อขายหุ้น และบังคับให้คืนหุ้นให้ ทั้งๆ ที่การซื้อขายหุ้นได้เสร็จเด็ดขาดไปแล้ว ถึงขนาดไปทำการฟ้องร้องในต่างประเทศเพื่อยกเลิกการซื้อขายหุ้น แต่อนุญาโตตุลาการก็ตัดสินให้ผู้ขายหุ้นแพ้คดี เอาหุ้นคืน ไม่ได้ คงได้รับไปแต่เพียงเงินที่ได้รับไปแล้ว และอีกส่วนที่จะพึงจ่ายให้ตามสัญญา ดังที่อนุญาโตฯ ได้แจ้งไว้ ผู้ขายหุ้นยังใช้วิธีการก่อกวนขัดขวางกลุ่มบริษัทของตนในหลายเรื่อง หลายเหตุการณ์ และใช้วิธีการซื้อหน้าสื่อโฆษณาหลากหลายประเภททั้งในและนอกประเทศ บิดเบือนข้อมูลโจมตีมาโดยตลอด ซึ่งตนก็พยายามเงียบ ไม่ตอบโต้ผ่านสื่อ แต่ใช้วิธีการทางกฎหมายในการปกป้องชื่อเสียงด้วยการฟ้องกลุ่มผู้ขายหุ้นเป็นเงินหลายพันล้านบาท แต่เมื่อมีการฟ้องเท็จกล่าวหาทำลายชื่อเสียงของครอบครัว และยังทำให้บริษัทวินด์ฯ รวมตลอดถึงผู้ถือหุ้นของบริษัทวินด์ฯ ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากด้วยแล้ว ทั้งๆ ที่ผู้ขายหุ้นไม่ได้เป็นเจ้าหนี้หรือเกี่ยวข้องกับบริษัทวินด์ฯ แต่อย่างใด จึงทำให้ไม่อาจอดทนต่อไปได้ จำเป็นต้องออกมาชีแจงให้ความจริงปรากฏ” นายณพ กล่าว

นอกจากนี้ นายณพ กล่าวว่า นอกจากพฤติกรรมของผู้ขายหุ้นที่ใช้วิธีการฟ้องและใช้สื่อโจมตีดังกล่าวมานั้น ผู้ขายหุ้นรายนี้ก็ยังใช้วิธีการจ้างวานผู้อื่นให้ฟ้องร้องอีกหลายเรื่อง แต่ทุกเรื่องก็เป็นฝ่ายที่แพ้คดีและถอนฟ้องไปเอง ล่าสุด มีหลักฐานยืนยันไว้ชัดเจนว่า มีคดีหนึ่ง ในขณะที่ผู้ขายหุ้นดังกล่าวเคยบริหารกิจการอยู่ ผู้ขายหุ้นรายนี้ได้ใช้จ้างวานอดีตพนักงานของบริษัทที่กลุ่มของตนซื้อมา เอาเงินของบริษัทดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ของตนอยู่หลายครั้ง หลายจำนวน ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายอย่างชัดแจ้งและยืนยันโดยอดีตพนักงานผู้ถูกใช้จ้างวานดังกล่าว ซึ่งได้แถลงยอมรับต่อหน้าศาลไว้แล้วว่า ผู้ขายหุ้นรายนี้ได้เอาเงินของบริษัทไปจริง โดยขณะนี้ศาลอาญาก็ได้ออกหมายจับผู้ขายหุ้นรายนี้ไว้แล้ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image