ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประธาน ชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า เกษตรกรบ้านสวนหม่อน บ้านกุดแคน บ้านหนองโจด ตำบลหนองโน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ได้รับความเดือนร้อน ไม่มีน้ำเพียงพอต่อการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากคลองส่งน้ำของอ่างเก็บน้ำห้วยคะคาง (โคกก่อ) ชำรุด ไม่สามารถส่งน้ำได้ จึงขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไขปัญหาโดยด่วน เนื่องจากจะเข้าสู่ฤดูการทำนาปีแล้วนั้นว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าช่วงวันที่ 25-27 กรกฎาคม 2560 ได้เกิดฝนตกหนักสะสมติดต่อกันถึง 3 วัน เนื่องจากอิทธิพลของพายุเซินกา ส่งผลให้มีปริมาณฝนสะสมกว่า 300 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมขังที่อยู่อาศัยและพื้นที่การเกษตรที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ในเขตจังหวัดมหาสารคาม รวมทั้งบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงอ่างเก็บน้ำห้วยคะคาง (โคกก่อ) อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคามก็ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยเช่นกัน ปริมาณน้ำฝนที่สะสมต่อเนื่อง บริเวณบ้านโจด ตำบลหนองโนและพื้นที่ใกล้เคียง ได้ไหลบ่ากัดเซาะคลองส่งน้ำชำรุดเสียหาย ทั้งนี้โครงการชลประทานมหาสารคามได้สำรวจความเสียหายของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา พบว่าคันคลองขาดประมาณ 50 เมตร และมีตะกอนดินทับถมในคลองยาว 150 เมตร ช่วง กม.1+700 ถึง กม.1+850 จึงได้ดำเนินการประมาณราคาค่าซ่อมแซมคันคลองดังกล่าว เป็นเงิน 600,000 บาท และได้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมชลประทาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติงบประมาณ คาดว่าจะได้รับการอนุมัติงบประมาณ ในช่วงเดือนเมษายน2561 นี้
ดร.ทองเปลวกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชลประทานมหาสารคามได้มีการประชุมหารือและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นฤดูแล้ง จนปัจจุบันได้ข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาก่อนที่จะซ่อมแซมคันคลอง เบื้องต้นการส่งน้ำให้เกษตรกร จะส่งน้ำไปจนถึงจุดที่เกิดคลองขาด ซึ่งกลุ่มเกษตรกรจะนำกระสอบทรายมาปิดกั้นจุดดังกล่าวเพื่อสร้างทำนบดิน และใช้ท่อพีวีซีเชื่อมต่อน้ำจากคลองชลประทานข้ามจุดที่คลองขาดผ่านไปใช้เป็นการชั่วคราวก่อน แต่เนื่องจากขณะนี้ได้เข้าสู่ช่วงการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง โครงการชลประทานมหาสารคามจึงได้นำเครื่องจักร เครื่องมือเข้าไปซ่อมแซมคันคลองที่ชำรุดเป็นการชั่วคราว พร้อมขุดร่องเพื่อส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตร ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จวันที่ 12 เมษายน 2561 เพื่อให้สามารถส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรได้อย่างทั่วถึงเมื่อได้รับการอนุมัติงบประมาณแล้ว จะเร่งดำเนินการดาดคอนกรีตที่ชำรุดเสียหายให้เสร็จในเดือนพฤษภาคม 2561 เพื่อให้สามารถส่งน้ำให้กับเกษตรกรได้ทันที
“กรมชลประทานไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ชี้แจง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งรับฟังปัญหาจากเกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยคะคาง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเพียงพอที่จะสนับสนุนการเกษตรและการอุปโภค-บริโภคตลอดในฤดูแล้งนี้”ดร.ทองเปลวกล่าว
