นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โฆษก กกพ. หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า ได้ประกาศปรับปรุงสัญญามาตรฐานบริการไฟฟ้าใหม่ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือให้ชัดเจน เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก ทั่วประเทศ กว่า 20 ล้านราย หลังจากได้รับฟังความเห็นผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ มีสาระ คือ การกำหนดระยะเวลาชำระค่าไฟฟ้าต้องไม่น้อยกว่า 10 วัน นับจากวันที่ลงในใบแจ้งค่าไฟฟ้า หากยังไม่มีการชำระเงิน ต้องแจ้งเตือนเป็นหนังสืออย่างน้อย 5 วัน จึงจะงดจ่ายไฟฟ้าได้ เท่ากับว่าได้ยืดระยะเวลาจ่ายค่าไฟฟ้าก่อนถูกตัดไฟฟ้าเป็น 15 วัน จากเดิม 5-7 วันเท่านั้น
ทั้งนี้ ขั้นตอนการงดจ่ายไฟฟ้า ผู้ใช้ไฟจะเสียค่าธรรมเนียมตัด-ต่อกระแสไฟฟ้าต่อเมื่องดจ่ายไฟฟ้าจริงเท่านั้น จากเดิมทางการไฟฟ้าจะคิดค่าธรรมเนียมทันทีที่เลยกำหนด ทั้งที่อาจยังไม่มาตัดไฟจริง โดยค่าธรรมเนียมการงดจ่ายไฟของการไฟฟ้านครหลวงอยู่ที่ 40 บาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 107 บาท และการต่อไฟฟ้าคืนหลังจากงดจ่ายไฟต้องดำเนินการทันทีภายใน 1 วัน ขณะเดียวกันให้การไฟฟ้าตรวจสอบเครื่องวัด (มิเตอร์) แสดงค่าเที่ยงตรงทุก 3 ปี ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการตรวจสอบที่กำหนด หากเครื่องวัดหน่วยผิดพลาดคลาดเคลื่อน เป็นเหตุให้เรียกเก็บค่าไฟฟ้าต่ำกว่าจริง จะปรับปรุงยอดเพื่อเรียกเก็บย้อนหลังได้ตามเวลาที่ตรวจพบ แต่ไม่ให้เกิน 3 ปี
นายวีระพล กล่าวว่า การไฟฟ้าต้องจ่ายดอกผลที่เกิดจากการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าทุกรอบครั้งละ 5 ปี ในรูปแบบของการหักลดค่าไฟฟ้า เริ่มคิดดอกผลตั้งแต่ปี 2558 ในอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์เฉลี่ยทั้งปีของธนาคารกรุงไทย ประเภทรัฐวิสาหกิจ ให้เริ่มจ่ายคืนครั้งแรกในรอบบิลไฟฟ้าเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เนื่องจากที่ผ่านมามีข้อโต้แย้งจากผู้ใช้ไฟฟ้าว่า ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าที่การไฟฟ้าจัดเก็บ การไฟฟ้านำเงินไปใช้ในเรื่องใด ซึ่งการไฟฟ้าระบุว่า นำไปใช้ในกิจการเพื่อสังคม (ซีเอสอาร์) แต่ผู้ใช้ไฟมองว่าเป็นเงินของผู้ใช้ไฟ ไม่ควรนำไปใช้ในกิจการอื่น
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องยื่นขอใช้สิทธิยกเว้นการงดจ่ายไฟฟ้า ภายในวันที่ 31 มกราคมของทุกปี และมีเอกสารหลักฐานตามที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย ส่วนการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าไฟฟ้าและค่าธรรมเนียม ต้องประกาศให้ทราบก่อนเป็นการล่วงหน้า การจัดส่งใบแจ้งค่าไฟฟ้า นอกจากส่งไปยังสถานที่ใช้ไฟฟ้าแล้ว ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถแจ้งให้ส่ง ณ สถานที่อื่นๆ เพิ่มเติมตามที่ตกลงได้และการไฟฟ้าต้องเก็บข้อมูลประวัติการใช้ไฟฟ้าย้อนหลังไว้ไม่น้อยกว่า 2 ปี เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้าใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบ