นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ในสัปดาห์นี้คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้น โดยให้กรอบเคลื่อนไหวที่ 1,780-1,820 จุด เนื่องจากมีการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มสื่อสารและกลุ่มพลังงาน หลังจากที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้รายงานผลการดำเนินงานไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นจะเป็นช่วงการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนกลุ่มอื่นๆ ซึ่งไฮไลท์ที่ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้นคือหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งนำโดยปตท.สผ. น่าจะมีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น ส่วนปัจจัยภายในประเทศ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานตัวเลขการนำเข้าและส่งออกเดือนมีนาคม 2561 โดยคาดการณ์ว่าการส่งออกจะบวกประมาณ 6% ขณะที่การนำเข้าจะบวกประมาณ 11% ส่วนการลงทุนของอาลีบาบากรุ๊ปในไทย ประเมินว่ากลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและกลุ่มโลจิสติกส์จะได้รับผลประโยชน์โดยตรง
นายชัยยศกล่าวว่า ปัจจัยนอกประเทศติดตามการประชุมร่วมกันระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ เพื่อหารือแนวทางการแก้ปัญหานิวเคลียร์ ซึ่งหากผลการเจรจาออกมาดี เชื่อว่าจะเป็นเซนทิเม้นท์ที่ดีต่อภาวะการลงทุนทั่วโลก และติดตามการประชุมของธนาคากลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% และจับตาว่าจะมีการลดการใช้มาตรการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน (คิวอี) หรือไม่ และการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ -0.1% ส่วนเรื่องสงครามซีเรีย ทางสหรัฐฯ และพันธมิตรที่ไปโจมตีซีเรีย พุ่งเป้าไปที่คลังเก็บอาวุธเป็นหลัก และใช้เวลาในการโจมตีเพียง 1 วัน ทำให้ความรุนแรงไม่ได้บานปลาย เพราะฉะนั้นเชื่อว่าผลกระทบจากการโจมตีซีเรียน่าจะลดลงในสัปดาห์นี้ ขณะที่สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ทุกฝ่ายก็อยากจะหันหน้าเจรจากัน ไม่มีประเทศไหนอยากทำสงคราม เนื่องจากตลาดการค้าทั่วโลกต้องพึ่งพาอาศัยกัน
“ส่วนผลกระทบที่จะส่งผลกับเม็ดเงินจากต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่เข้ามาในตลาดหุ้นไทยไม่ได้มีผลมาก เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ฟันด์โฟลว์ไม่ได้ไหลเข้ามาอยู่แล้ว นักลงทุนต่างชาติยังคงสถานะขายสุทธิ เพราะฉะนั้นแม้ว่าสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังไม่ได้มีการเจรจากันในช่วงนี้ แต่เชื่อว่าฟันด์โฟลว์ก็ยังไม่ได้ไหลเข้ามาอยู่ดี” นายชัยยศกล่าว
นายชัยยศกล่าวว่า และหุ้นเด่นประจำสัปดาห์แนะนำหุ้น AEONTS และ IVL โดยให้ราคาพื้นฐานที่ 210 บาทและ 75 บาทตามลำดับ ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มพลังงานหากดัชนีตลาดหุ้นย่อตัวลง ก็เป็นจังหวะที่น่าเข้าซื้อเช่นกัน
