“กสทช.”เรียกทรูแจงคืบหน้าข้อมูลรั่วเผยเตรียมนำเข้าบอร์ดกสทช.9พ.ค.นี้

นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังเรียกตัวแทนบริษัท เรียล มูฟ จำกัด หรือ ทรูมูฟ เอช ในเครือบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้าชี้แจงความคืบหน้าการเพิ่มระบบรักษาข้อมูลส่วนบุคคล หลังจากที่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการรั่วไหลในระบบ amazon s3 จำนวน 11,400 หมายเลข ว่า จากคำสั่งของ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา ในเบื้องต้น บริษัท ทรูมูฟ เอช ชี้แจงว่า ในชุดข้อมูล 40,000 ไฟล์ มีเพียงข้อมูลจำนวน 11,400ไฟล์ ที่เป็นข้อมูลสำเนาบัตรประชาชน ทั้งนี้ ยังไม่พบความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่มีผู้บริโภค 1 ราย ได้โทรเข้ามาร้องเรียนกับทาง สำนักงาน กสทช. ซึ่งตัวแทนทรูมูฟยืนยันว่า พร้อมเยียวยาผู้ใช้บริการ หากได้รับความเสียหาย และจะส่งหนังสือชี้แจงโดยละเอียดแก่ กสทช. ในช่วงเย็นของวันที่ 30 เมษายน 2561นี้ หลังจากนั้นสำนักงานกสทช.จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงานของ กสทช. ด้านโทรคมนาคมในวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 ว่า มีประเด็นสงสัยเพิ่มเติมหรือไม่ และเตรียมนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (บอร์ด กสทช.) ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 อีกครั้ง

“ เรื่องดังกล่าวเป็นความผิดพลาดที่จะต้องแก้ไข ซึ่งจะต้องคิดขนานกันไปว่า ในอนาคตหากเกิดการหลุดรั่วของข้อมูลและมีการเก็บไว้คนเดียวก็จะอันตรายเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามการจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัลถือว่ามีข้อดี เพราะหากมีการรั่วไหลก็จะตามหาร่องรอยได้ และรู้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ และอย่างไร หากถ้าย้อนไปจากเดิมที่มีการจัดเก็บข้อมูลในกระดาษจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นใคร เมื่อไร อย่างไร” นายก่อกิจ กล่าวและว่า ตัวอย่างการจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยทางดิจิทัล คือระบบการลงทะเบียนซิม ผ่านแอพพลิเคชั่น 2 ลดปัญหาการใช้เอกสารปลอมแปลง และการแอบอ้าง ซึ่งอยากให้ระบบการจัดเก็บข้อมูลของผู้ให้บริการทุกข่ายมีความปลอดภัยกับผู้บริโภคมากที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image