สุวรรณภูมิ โต้สมาพันธ์นักบินนานาชาติ แจงให้ความสำคัญแก้ปัญหาพื้นผิวแท็กซี่เวย์ต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พันตรีกมล วงศ์สมบุญ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายบำรุงรักษา) รักษาการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ตามที่เว็บไซต์ ifalpa.org ของสมาพันธ์นักบินนานาชาติ (International Federation of Air Line Pilots’ Associations) หรือ IFALPA ได้ออกประกาศเตือนเรื่องความปลอดภัย (Safety Bulletin) เรื่องการใช้งานทางขับและทางขับเคลื่อนเข้าหลุมจอดอากาศยาน (Taxiway) and Taxilane) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ที่มีสภาพพื้นผิวอ่อน นั้น ทสภ.ขอชี้แจงให้ทราบว่า ทสภ. ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเรื่องพื้นผิว Taxiway และ Taxilane มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีแผนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

พันตรีกมล กล่าวว่า ในส่วนของการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น ทสภ. มีส่วนงานที่รับผิดชอบในการตรวจสอบสภาพพื้นผิวทางวิ่ง (Runway) ทางขับ (Taxiway) และลานจอดอากาศยานให้มีความปลอดภัยในการใช้งาน โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง และหากได้รับแจ้งหรือตรวจพบความชำรุดบกพร่อง จะทำการปิดพื้นที่เพื่อซ่อมแซมพื้นผิวอย่างเร่งด่วนในทันที สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะกลาง ทสภ. จะมีการดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซมพื้นผิวโดยเปลี่ยนชั้นวัสดุแอสฟัลต์เดิมให้เป็นวัสดุแอสฟัลต์ที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยในปี 2560-2561 ได้ดำเนินการซ่อมแซมแล้วในพื้นที่ ทางขับ (Taxiway) G และ C และทางขับเข้าสู่หลุมจอด(Taxilane) T8 และT12 และหากมีการตรวจพบพื้นที่ที่ชำรุดเสียหายจะดำเนินการปิดพื้นที่และเร่งดำเนินการซ่อมแซมพื้นผิวให้สามารถกลับมาใช้งานได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสารและอากาศยาน สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาว ปัจจุบันทสภ. อยู่ในระหว่างทำการออกแบบการก่อสร้างซ่อมแซมพื้นผิวทางอากาศยานด้วยวัสดุปอร์ตแลนด์ซีเมนต์คอนกรีต ซึ่งเมื่อออกแบบแล้วเสร็จ ทสภ. จะได้มีการเปิดประมูลหาบริษัทผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการต่อไป ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องผิวทางของ ทสภ. อย่างถาวร

พันตรีกมล กล่าวว่า ทสภ.ได้มีการทดลองติดตั้งระบบระบายน้ำใต้ดิน(Subdrain) ในการซ่อมพื้นที่ที่มีปัญหาพบว่าพื้นที่ดังกล่าวสามารถใช้งานด้วยดี และจะขยายการติดตั้งระบบดังกล่าวในพื้นที่อื่นที่มีปัญหาต่อไป และจากการดำเนินงานในระบบการจัดการด้านนิรภัยของสนามบิน (Safety Management System) ของ ทสภ. ซึ่งมีการเก็บสถิติการแตกของพื้นผิวและการแก้ไขโดยการปิดพื้นที่ซ่อมฉุกเฉิน พบว่าสถิติการตรวจพบพื้นผิวแตกมีแนวโน้มลดลง และการปิดซ่อมฉุกเฉินลดลง รวมทั้งในปัจจุบันยังไม่ตรวจพบเหตุการณ์อากาศยานโดน FOD จากพื้นผิวที่แตกร่อน แต่การปิดซ่อมพื้นที่อาจส่งผลต่อความคับคั่งการจราจรของอากาศยานที่ขับเคลื่อน และเพื่อให้เกิดความมั่นใจด้านความปลอดภัยของการใช้งานทางวิ่ง ทางขับ ทสภ. ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาคุณภาพผิวทางวิ่งทางขับและลานจอดอากาศยาน ทสภ.โดยมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินแห่งประเทศไทย บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อรายงานและประเมินสถานการณ์ตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยของ ทสภ. ด้วย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม สมาพันธ์นักบินนานาชาติ (ไอเอฟเอแอลพีเอ) ออกประกาศเตือนภัยด้านความปลอดภัยเพื่อแจ้งต่อนักบินสายการบินพาณิชย์ทั่วโลก ถึงปัญหาของทางขับหรือแท็กซีเวย์ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่เป็นการประกาศเตือนซ้ำตามคำแจ้งเตือนเกี่ยวกับการปฏิบัติการของ สมาคมขนส่งทางการอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) หมายเลข โอเอ็น002/2018 โดยระบุว่า นักบินสมาชิกยังคงรายงานการพบปัญหาบริเวณ แท็กซีเวย์, แท็กซีเลน, และลานจอดเครื่องบินของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบางส่วนของพื้นที่เหล่านี้มี “ซอฟท์ สปอต” ซึ่งเกิดจากการหลุดล่อนของแอสฟัลท์ที่ใช้ปูลาด ประกาศดังกล่าวของไอเอฟเอแอลพีเอ ระบุว่า นักบินและเจ้าหน้าที่ให้บริการภาคพื้นดินที่สนามบินสุวรรณภูมิเองรายงานเรื่องนี้มาตั้งแต่อย่างน้อยในปี 2551 เรื่อยมา

Advertisement

ประกาศเตือนดังกล่าวระบุว่า บริษัทท่าอากาศยานไทย (เอโอที) เคยแจ้งว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากปัญหาวัสดุปูลาดแท็กซีเวย์และพื้นที่อื่นๆดังกล่าว โดยระบุว่าสาเหตุหลักมาจากการที่ยางแอสฟัลท์ที่ใช้ปูลาดไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมกันนั้นระดับน้ำใต้ดินในบริเวณสนามบินยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เกิดปัญหาหลุดล่อนเกินขึ้นในบริเวณที่มีปริมาณการใช้งานสูงหลังจากเวลาผ่านไปเพียง 2 ปี ซึ่งต่ำกว่าอายุการใช้งานของวัสดุปูลาดทั่วไปที่คาดกันว่าจะมีอายุการใช้งานได้ประมาณ 7 ปี

ประเตือนดังกล่าวระบุว่า ทางเอโอที ประกาศใช้ใช้มาตรการแก้ปัญหาระยะสั้น ซึ่งรวมถึงการซ่อมแซมชั่วคราวและการซ่อมแซมกึ่งถาวรในจุดที่เกิดปัญหา และจัดตั้งทีมงานซ่อมแซมเร่งด่วน ชั่วโมง เพื่อลดอุปสรรคในการปฏิบัติงานทั้งหมดลง และเมื่อเร็วๆนี้ ได้แจ้งให้ทราบด้วยว่า สัญญาว่าจ้างเพื่อการซ่อมแซมถาวร ถูกปฏิเสธในระยะการออกแบบ ทำให้การซ่อมแซมถาวรต้องล่าช้าออกไปและไม่น่าจะเริ่มต้นได้อย่างน้อยก็ก่อนปลายปี 2562

ดังนั้นทางไอเอฟเอแอลพีเอ จึงแจ้งเตือนให้นักบินที่ต้องปฏิบัติงานที่สนามบินสุวรรณภูมิได้รับทราบถึงอันตรายที่มีอยู่ และระมัดระวัง หลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยกระบวนการปฏิบัติที่เหมาะสม และเรียกร้องให้รายงานจุดที่มีปัญหาที่พบในทันทีต่อเอโอทีและหอควบคุมการบิน ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือทันทีหากจำเป็น และเรียกร้องให้สายการบินทุกแห่งทำรายงานอย่างเป็นทางการต่อจุดที่เป็นปัญหาที่พบเพื่อติดตามตรวจสอบและดำเนินการตามที่เหมาะสมต่อไปและส่งสำเนาถึงสมาคมขนส่งทางการอากาศระหว่างประเทศด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image