สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 เม.ย.) ดัชนีปรับลดลง หลังตลาดได้รับแรงกดดันจากการปรับลดลงลงของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม และราคาน้ำมันดิบที่ลงมายืนที่ระดับ 35 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง
หลังปิดตลาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,737.00 จุด ลบ 55.75 จุด หรือ -0.31% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ระดับ 4,891.80 จุด ลบ 22.74 จุด หรือ -0.46% และดัชนี เอสแอนด์พี500 ปิดที่ระดับ 2,066.13 จุด ลบ 6.65 จุด หรือ -0.32%
ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับลดลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดตลาดที่ระดับ 35.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ของปีนี้ หลังมีสัญญาณว่า การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 17 เม.ย.ที่กาตาร์นั้น ที่ประชุมอาจจะไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการจำกัดการผลิตน้ำมัน เพื่อพยุงราคาให้สูงขึ้น
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับลดลง 98 เซนต์ หรือ 2.5% ไปปิดที่ระดับ 37.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่ราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก(COMEX)ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับลดลง 4.20 ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดตลาดที่ระดับ 1,219.30 ดอลลาร์/ออนซ์
