เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ โดยมี นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่พระยาแรกนา เทพีคู่หาบทอง ได้แก่ น.ส.พรพิมล ศิริการ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ กรมส่งเสริมการเกษตร และ น.ส.นันทวัน สุวรรณสถิตย์ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ กรมชลประทาน เทพีคู่หาบเงิน ได้แก่ น.ส.กันยารัตน์ นาคกูล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ น.ส.
ดวงพร งามประดิษฐ์ นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ กรมวิชาการเกษตร คู่เคียงมีจำนวน 16 ราย และผู้เชิญเครื่องอิสริยยศจำนวน 4 ราย ด้านพระโคแรกนา ได้แก่ พระโคพอ และพระโคเพียง (พระโคสำรอง ได้แก่ พระโคเพิ่ม และพระโคพูล) โดยมีฤกษ์ไถหว่านระหว่างเวลา 08.29-09.19 น.
สำหรับพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญปีนี้ ประกอบด้วย ข้าวนาสวน จำนวน 7 พันธุ์ ประกอบด้วย ปทุมธานี 1, ขาวดอกมะลิ 105, สังข์หยดพัทลุง, กข 6, กข 43, กข 57 และ กข 71 รวมน้ำหนักเมล็ดพันธุ์ข้าวทั้งสิ้น 1,799 กิโลกรัม จัดเป็น “พันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทาน” และบรรจุในซองพลาสติกแจกจ่ายเพื่อเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคลในการประกอบอาชีพการเกษตรตามประเพณีนิยม
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าชมพระราชพิธีได้โดยผ่านจุดคัดกรอง เข้าไปอยู่ในบริเวณที่จัดไว้รอบนอกแนวรั้วกั้นพื้นที่มลฑลพิธี และสามารถเข้าไปเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวในบริเวณลานแรกนาได้ เมื่อขบวนเสด็จพระราชดำเนินเคลื่อนออกจากมลฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้วเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนเข้ามารอชมพระราชพิธีเป็นจำนวนมาก บางส่วนทยอยเข้ามาระหว่างพระราชพิธี โดยประชาชนส่วนใหญ่ กล่าวเป็นเสียงเดียวว่า รอเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวภายหลังพระราชพิธีเสร็จสิ้น โดยพกถุงพลาสติกติดตัวมาด้วย ซึ่งทันทีที่เสร็จสิ้นพระราชพิธี และขบวนเสด็จพระราชดำเนินเคลื่อนออกจากมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ประชาชนที่ไปรอก็หลั่งไหลเข้าไปเก็บพันธุ์ข้าวอย่างคึกคัก
สำหรับปีนี้ พระยาแรกนาหยิบได้ผ้า 6 คืบ สำหรับนุ่งแต่งกาย พยากรณ์ว่าน้ำน้อย นาในที่ลุ่มจะได้ผลบริบูรณ์ดี แต่ในที่ดอนอาจจะเสียหายบ้าง ได้ผลไม่เต็มที่
ด้านพระโคพอและพระโคเพียงกินเลี้ยงเสี่ยงทาย น้ำ หญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์ดี พระโคกินเหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมจะสะดวกขึ้น การค้าขายกับต่างประเทศจะดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจรุ่งเรือง
นางธนัชภัค ไม้หอม อายุ 68 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เดินทางมาร่วมพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นประจำทุกปี แต่จำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้ว โดยเมื่อเช้านี้ตักบาตรเสร็จก็เดินทางมาทันที ก่อนหน้านั้นเคยรับชมทางโทรทัศน์ แต่ไม่ลุ้นเหมือนมาอยู่ที่นี่ เนื่องจากมารอเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวภายหลังเสร็จพระราชพิธี
“ปีที่แล้วได้ไปนิดหน่อย วิ่งไปเก็บไม่ทัน อายุมากแล้ว จึงขอแบ่งจากผู้อื่นบ้าง 3-5 เมล็ด ส่วนตัวพกถุงพลาสติกใบเล็กมาใส่กลับไป จากนั้นนำไปเพาะใส่กระถางเพราะที่บ้านไม่ได้ทำนา เมื่อข้าวออกรวงก็นำเมล็ดเก็บใส่กระเป๋าเงินไว้ ส่วนปีนี้ตั้งใจจะเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวใส่กระเป๋าเงินทันที ถ้าไม่มาร่วมพระราชพิธีนี้ เหมือนขาดอะไรสักอย่าง” นางธนัชภัคกล่าว
