“ก.ล.ต.” เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็น ก่อนออกกม.ลูก ย้ำไม่คุ้มครองลงทุนเงินดิจิทัลในตปท.

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 มีผลใช้บังคับแล้ว โดยกฎหมายดังกล่าวออกมาเพื่อกำกับดูแลการระดมทุนผ่านการเสนอขายโทเคนดิจิทัล รวมทั้งการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ ได้แก่ ศูนย์ซื้อขาย นายหน้า และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุนไม่ให้ถูกหลอกลวงจากผู้ไม่สุจริต ป้องกันการฟอกเงินและการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งสร้างความชัดเจนในการกำกับดูแล เพื่อให้ผู้ที่ต้องการใช้เครื่องมือนี้โดยสุจริตสามารถทำได้

พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลได้กำหนดนิยามของสินทรัพย์ดิจิทัล ประกอบด้วย คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัล ซึ่งจะหมายความรวมถึงหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนดด้วย สำหรับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ออกใหม่ต่อประชาชน จะทำได้เฉพาะนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งต้องได้รับอนุญาตและต้องยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัล และร่างหนังสือชี้ชวนต่อ ก.ล.ต. โดยเสนอขายผ่านผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ไอซีโอ พอร์ทอล) ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. นอกจากนี้ผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลมีหน้าที่จัดทำและส่งรายงานเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและฐานะการเงิน และข้อมูลที่อาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือโทเคนดิจิทัล หรือต่อการตัดสินใจลงทุน เพื่อให้มีการเปิดเผยข้อมูลต่อประชาชนและผู้ลงทุน

นายรพีกล่าวว่า ในด้านการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลผู้ที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจข้างต้นต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และมีมาตรฐานตามเกณฑ์ที่ ก.ล.ต.กำหนด อาทิ มีแหล่งเงินทุนเพียงพอ มีความปลอดภัยและการบริหารความเสี่ยงจากโจรกรรม มีการรู้จักและตรวจสอบข้อเท็จจริงของลูกค้า มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจเหล่านี้อยู่แล้วก่อนวันที่ พ.ร.ก.นี้มีผลใช้บังคับ ต้องยื่นขออนุญาตภายใน 90 วัน คือภายในวันที่ 14 สิงหาคม 2561 โดยทำธุรกิจต่อไปได้จนกว่าจะมีคำสั่งไม่อนุญาต

อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันการนำคริปโทเคอร์เรนซีที่ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจนมาใช้ในธุรกรรม ผู้ประกอบธุรกิจที่เสนอขายโทเคนดิจิทัลและให้คริปโทเคอร์เรนซีเป็นการตอบแทน หรือรับคริปโทเคอร์เรนซีจากลูกค้า จะรับได้เฉพาะคริปโทเคอร์เรนซีที่ได้จากการซื้อขาย แลกเปลี่ยน หรือฝากไว้กับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตามที่กำหนดในกฎหมายนี้เท่านั้น และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินด้วย ทั้งนี้ ก.ล.ต.สามารถยกเว้นการออกและเสนอขาย หรือการเป็นตัวกลางในบางลักษณะจากการกำกับดูแลได้

Advertisement

สำหรับการบังคับใช้กฎหมาย หากพบการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายแลกเปลี่ยนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล จะเอาผิดได้เทียบเคียงกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ อาทิ การบอกกล่าว เผยแพร่ หรือเปิดเผยข้อความที่เป็นเท็จทำให้สำคัญผิด การใช้ข้อมูลภายใน การซื้อขายตัดหน้าลูกค้า การสร้างราคาให้ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เป็นต้น รวมถึงมีความผิดเกี่ยวกับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายรพีกล่าวว่า ขณะนี้ ก.ล.ต.อยู่ระหว่างร่างประกาศและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อการกำกับดูแลที่ครอบคลุมธุรกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัลให้ชัดเจน และนำไปใช้ในทางปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามการลงทุนโทเคนดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซีในต่างประเทศจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายนี้ ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ พ.ร.ก.เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. http://www.sec.or.th/digitalasset หรือทางเพจเฟซบุ๊กของ ก.ล.ต.

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image