นายเดวิด ลี ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ZB.com จากประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แอพลิเคชั่นซื้อขายและติดตามสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนและการระดมทุน และการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ให้บริการในจีน สหรัฐอเมริกา แคนาดา สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ เปิดเผยในงานสัมมนาเรื่องคริปโทเคอร์เรนซี และบล็อกเชน อีเว้นท์ ว่า บริษัทได้เข้ามาเปิดสาขาในไทยอย่างเต็มรูปแบบ โดยตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลาง(ฮับ)การสร้างเครือข่ายซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยคาดว่าจะมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ซีบีฯ ติดอันดับ 1 ใน 10 แพลตฟอร์มซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก ซึ่งมีฐานลูกค้าไม่ต่ำกว่า 3 ล้านราย
นายพลเดช อนันชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด เปิดเผยว่า พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ สะท้อนว่าไทยเป็นประเทศแรกที่มีกฎหมายด้านการกำกับสกุลเงินดิจิทัล (คริปโทเคอร์เรนซี) ก้าวหน้าที่สุดในอาเซียน ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สิงคโปร์ ออกเป็นแนวปฏิบัติ ยังไม่ได้ออกเป็นกฎหมายฉบับเต็ม ส่วนเรื่องของการเก็บภาษีจากผลกำไร 15% ก็ยังน้อยกว่าญี่ปุ่นที่มีการเก็บภาษีจากผลกำไรถึง 55%
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (เจวีซี) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และแอพพลิเคชั่นทางด้านเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) เปิดเผยว่า พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นการสร้างมาตรฐานเรื่องการออกกฎหมายสกุลเงินดิจิทัล โดยอย่างน้อยสามารถแยกได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ส่วนเรื่องการเก็บภาษีมองว่าอาจจะยังโหดไป เนื่องจากมีการคิดภาษีคอร์ปอเรท 20% รัฐบาลควรจะออกสิทธิประโยชน์มาสนับสนุนผู้ประกอบการด้วย เช่น ไอซีโอ พริวิลเลจ ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนจากการเสนอขายเจฟินคอยน์ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบการปล่อยสินเชื่อแบบดิจิทัล โดยเก็บข้อมูลจากพฤติกรรมและนิสัยการจ่ายหนี้ของลูกค้าหรือข้อมูลจากบิ๊กดาต้า ซึ่งพบว่าสินเชื่อนอกระบบมีมูลค่าสูงกว่าสินเชื่อในระบบหรือการปล่อยสินเชื่อของสถาบันธนาคาร โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มีเงินเดือนไม่แน่นอน
