ส.ท่องเที่ยวยื่นหนังสือถึงวีระศักดิ์หวั่นชุมนุมกระทบท่องเที่ยว-เตรียมเอาผิดล้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม สมาคมภาคการท่องเที่ยว ซึ่งประกอบด้วย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมมัคคุเทศก์มืออาชีพแห่งประเทศไทย สมาคมสวนสนุก สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมไทย-จีน เป็นต้น โดยมีนายสุรวัช อัครมาศ อุปนายกสมาคมแอตต้า เป็นผู้แทนมอบหนังสือ

นายวีระศกดิ์กล่าวว่า ปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ การทำให้ท่องเที่ยวสะดุดจากการชุมนุม การประท้วง หรือด้านอื่นๆ จะส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจในหลายๆ ด้าน รวมทั้งด้านการท่องเที่ยว จากเมืองหลักสู่เมืองรอง การท่องเที่ยวชุมชน หรือกระทบถึงนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่เรากำลังพยายามดึงเข้ามาแทนนักท่องเที่ยวเชิงปริมาณ ดังนั้นอยากให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงปัญหาที่อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพลังงานในการผลักดันให้มีการนำรถ TukTuk ไฟฟ้ามาใช้เพื่อการท่องเที่ยว จึงขอความร่วมมือจากภาคเอกชนช่วยกันบริหารจัดการเรื่องต่างๆ เช่น สถานที่ที่จะนำรถ Tuk Tuk ไปใช้ประโยชน์ เช่น โบราณสถาน พระบรมมหาราชวัง สถานที่ที่รถบัสไม่สามารถเข้าไปได้

นายวีระศักดิ์กล่าวว่า นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯได้มีการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวอีก 4 ด้าน ได้แก่ การท่องเที่ยวมุสลิม ซึ่ง The Mastercard-Crescent Rating Global Muslim Travel Index หรือ GMTI 2018 จัดอันดับเรื่องการท่องเที่ยวมุสลิมของประเทศไทย อยู่ในอันดับ 2 รองจากประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้ ต้องการให้ภาครัฐและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้าน Supply Site ว่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวใดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อยู่อีกบ้าง การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง โดยจะเพิ่มเส้นทางของการท่องเที่ยวในเมืองรอง การจัด MICE ในเมืองรอง และการท่องเที่ยวทางน้ำ โดยขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยกันกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัย และต้องคำนึงถึงประโยชน์ของคนในท้องถิ่นเป็นสำคัญ รวมถึงการสนับสนุนให้มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการกระจายนักท่องเที่ยวและรายได้ไปสู่ท้องถิ่นและชุมชนต่อไป

นายวีระศักดิ์กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯร่วมกับกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพ่งเล็งในการเอาผิดกับกลุ่ม “ล้ง” โดยกลุ่มล้งเหล่านี้จะนำนักท่องเที่ยวไปพักคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ รวมถึงการเปิดกิจการแบบโรงแรมโดยไม่จดทะเบียนโรงแรมให้ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้ตำรวจท่องเที่ยวได้เข้าไปดำเนินคดีกับกลุ่มนี้เป็นกรณีเร่งด่วน เพราะกลุ่มนี้เป็นกระบวนการทำธุรกิจที่เอาเปรียบคนที่ทำธุรกิจอย่างเห็นชอบด้วยกฎหมาย โรงแรมที่เห็นชอบด้วยกฎหมาย กลุ่มคนเหล่านี้เป็นชาวต่างประเทศที่เข้ามาและทำให้ Supply chain ถูกบิดเบือน กลายเป็นว่าเข้ามาแล้วค่าพักแรมทั้งหมดตกไปอยู่กับผู้ประกอบการชาวต่างประเทศซึ่งไม่มาจดทะเบียนให้ถูกต้อง ไม่เสียภาษีให้ถูกต้องตามระบบที่ผู้ประกอบการที่พักโรงแรมในประเทศไทยเค้าทำกัน

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image