มาสด้า…เปิดแผน‘ฮิโรชิมา โมเดล’ รุกนวัตกรรมยานยนต์สู่อนาคต : โดยนายพล

รถยนต์มาสด้าถือว่าเป็นอีกตัวอย่างของความสำเร็จของการต่อสู้ของบริษัทญี่ปุ่น ต้องต่อสู้ฟันฝ่าพิษภัยของมหันตภัยสงครามนิวเคลียร์ในอดีต จนกระทั่งก้าวมาสู่บริษัทชั้นนำของโลกยานยนต์ในปัจจุบัน
จากบริษัทผลิตจุกไม้คอร์กในปี พ.ศ.2463 จึงเริ่มผลิตเครื่องมือกล ต่อด้วยมอเตอร์ไซค์ จนกระทั่งเริ่มต้นผลิตรถบรรทุก 3 ล้อ ที่เรียกว่า “มาสด้า-โกะ” ในปี พ.ศ.2474 ถือเป็นรถยนต์คันแรกที่ผลิตโดยมาสด้า
ต่อมาได้ผลิตรถโดยสารจำนวนมาก ผลิตเครื่องยนต์ 2 จังหวะรายแรกของโลก และในปัจจุบันมาสด้าเป็นผู้ผลิตรายเดียวที่ผลิตเครื่องยนต์โรตารี่ รวมทั้งเทคโนโลยีสกายแอ๊กทีฟ ที่ทำให้มาสด้าก้าวขึ้นมาเป็นค่ายรถยนต์ที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายที่สูงทั้งในตลาดโลกและตลาดเมืองไทยในปัจจุบัน

ปรัชญาในการผลิตรถยนต์ของมาสด้าคือ “ซูม ซูม” นวัตกรรมการถ่ายทอดความสนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่ให้กับลูกค้า

ระหว่างวันที่ 27-31 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา มาสด้าได้จัดกิจกรรม “มาสด้า อาเซียน เทค ฟอรั่ม 2018” เพื่อนำเสนอทิศทางของเทคโนโลยียานยนต์นับจากนี้ไปของมาสด้า โดยจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 หลังจากจัดให้กับสื่อมวลชนที่สหรัฐอเมริกาและยุโรปได้เห็นถึงแนวโน้มเทคโนโลยีที่จะนำมาสู้กับคู่แข่งในอนาคตก่อนเดินหน้าสู่ยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ไร้คนขับ

กิจกรรมครั้งนี้ เริ่มจากการแนะนำเทคโนโลยีสกายแอ๊กทีฟ เอ็กซ์ เครื่องยนต์ใหม่ พัฒนาโดยรวมข้อดีของเครื่องยนต์แก๊สโซลีนที่จุดระเบิดด้วยประกายไฟสามารถทำงานที่รอบสูงและปลดปล่อยไอเสียได้สะอาดกว่า ผสมผสานเข้ากับเครื่องยนต์ดีเซลที่จุดระเบิดด้วยการอัด สามารถตอบสนองในตอนต้นได้ดีและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เป้าหมายเพื่อผลิตรถยนต์ครอสโอเวอร์ที่ให้สมรรถนะสูงแต่ประหยัดน้ำมัน

Advertisement

เครื่องยนต์สกายแอ๊กทีฟ เอ็กซ์ จะเข้ามาเสริมเครื่องยนต์เบนซินสกายแอ๊กทีฟ จี และเครื่องดีเซล สกายแอ๊กทีฟ ดี ในรถยนต์รุ่นต่างๆ ของมาสด้า และมีแผนจะพัฒนาเครื่องยนต์เหล่านี้ให้ดีขึ้นใส่ในรถยนต์รุ่นต่างๆ ก่อนไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับในปี พ.ศ.2568 ตามเป้าหมาย

ในการทดสอบเครื่องยนต์สกายแอ๊กทีฟ เอ็กซ์ มาสด้าได้ให้ขับรถที่ติดตั้งเครื่องสกายแอ๊กทีฟ เอ็กซ์ มาสด้า 3 ขนาด 2.0 ลิตรกับเครื่องยนต์มาสด้ารุ่นปัจจุบัน ทำให้เห็นความตั้งใจในการเก็บรายละเอียดการพัฒนาเครื่องยนต์ ทำให้รู้สึกถึงความสมูทลื่นไหลของเครื่องยนต์ ประหยัดน้ำมันกว่ารุ่นปัจจุบันประมาณ 20% และพละกำลังเพิ่มขึ้นได้ 10-30%

มาสด้ามีแผนจะนำเครื่องสกายแอ๊กทีฟ เอ็กซ์ เข้ามาใส่ในรถยนต์รุ่นใหม่ของมาสด้าช่วงปลายปี 2562 พร้อมกับเทคโนโลยีไฮบริด และจะเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการนำเข้ารถยนต์ ซีเอ็กซ์ 8 ครอสโอเวอร์รุ่นใหญ่ ขนาด 2.2 ดีเซล

Advertisement

การทดสอบ ซีเอ็กซ์ 8 ถูกจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่มาสด้า ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น และเป็นโรงงานหนึ่งในสองแห่งที่เมืองโฮฟูอีกแห่ง ส่วนในต่างประเทศมีอยู่ 7 แห่งรวมทั้งประเทศไทย ฐานการผลิตที่สำคัญส่งออกไปทั่วโลก

สำหรับมาสด้า ซีเอ็กซ์ 8 ที่มาสด้าให้ทดสอบ เป็นรถเอสยูวี 3 ตอน ตอนละ 2 ที่นั่ง สมรรถนะและความลงตัวเล็งเป้าหมายแย่งตลาดรถเก๋งนั่ง ฮอนด้า แอคคอร์ด

ต้องรอดูว่ารถครอสโอเวอร์รุ่นใหญ่นี้จะใส่เทคโนโลยีสกายแอ๊กทีฟ ดี พัฒนาใหม่ จะโดนใจคนไทยแค่ไหน และคุมราคาได้ดีแค่ไหน

นอกจากเทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่แล้ว ที่ฮิโรชิมานี้ มาสด้ายังประกาศนำเทคโนโลยีด้านอื่นมาใส่ในรถมาสด้านับจากปีหน้าอีกเพียบ เช่น การนำช่วงล่างทอร์ชั่นบีมมาพัฒนาลบจุดด้อยเรื่องความแข็งกระด้างและคงจุดแข็งด้านความนุ่มนวลไว้ เทคโนโลยีการทรงตัวของรถโดยคำนึงถึงสรีระคน การเชื่อมต่อสื่อสารรุ่นใหม่

สำหรับตลาดประเทศไทย มาสด้าประกาศให้อีซูซุเป็นผู้ผลิตปิกอัพให้ในส่วนช่วงล่างตั้งแต่ปี 2564 แต่มาสด้ายังคงออกแบบตัวถังรถเอง ช่วงนี้ก็คงอาศัยแต่งหน้าทาปากปิกอัพ บีที 50 ไปพลางก่อน

จากนี้เป็นช่วงที่สำคัญของมาสด้าใจการพัฒนารถยนต์ ที่มาสด้าถือว่าเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ประสบความสำเร็จในวันนี้

ปีที่ผ่านมาส่วนแบ่งการตลาด หรือมาร์เก็ตแชร์ของมาสด้าในตลาดรถยนต์รวมเพิ่มมาเป็น 6.3% สูงสุดใจประวัติศาสตร์

และในปีนี้วางเป้าหมายจะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์เป็น 6.5%

เพื่อมุ่งหน้าสู่เป้าหมายอีกครั้งของผู้บริหารมาสด้า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ที่คาดหวังว่าจะสร้างยอดขายให้ได้ 1 แสนคันในอนาคต ด้วยเครือข่ายดีลเลอร์โชว์รูมที่เข้มแข็ง 147 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเดินหน้าตามแผนฮิโรชิมาโมเดล ที่ประกาศรุกตลาดยานยนต์ในอนาคตนับจากนี้

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image