สภาวิศวกรยันจุดยืน ไม่เปิดเสรีต่างด้าวทำอาชีพโยธา

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมกับสภาสถาปนิก สภาวิชาชีพบัญชี วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน โดยยืนยันจุดยืนของสภาวิศวกรไม่เห็นด้วยกับการเปิดเสรีต่างด้าวเข้ามาประกอบวิชาชีพวิศวกรรมโยธา เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและสาธารณะ เนื่องจากอาชีพวิศวกรรมโยธา ถือว่าเป็นอาชีพสงวนตามพระราชกฤษฎีกากำหนดอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 และตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ.2542 กำหนดให้วิศวกรรมโยธา เป็นวิศวกรรมควบคุม อีกทั้งในมาตรา 45 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากสภาวิศวกร อันเป็นเจตนารมณ์ของ พระราชบัญญัติวิศวกรที่ต้องการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนและสาธารณะเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นที่ต้องให้มีต่างด้าวเข้ามาประกอบวิชาชีพวิศวกรรมโยธา เช่น ในกรณีที่เกิดความขาดแคลนวิศวกรอย่างมากซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศหรือความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือ กรณีที่ต้องรับถ่ายโอนเทคโนโลยีจากต่างชาติ หรือเป็นกรณีที่เป็นข้อผูกผันตามข้อตกลงระหว่างประเทศ เช่น ข้อตกลงยอมรับร่วมในเรื่องคุณสมบัติของนักวิชาชีพอาเซียนหรือ MRA ที่ไทยได้ทำไว้ก้บชาติสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ก็ต้องกำหนดเงื่อนไขให้ชัดเจนโดยคำนึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ กล่าวว่า ตนได้เรียนกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานว่า ในกรณีต่างด้าวเข้ามาทำอาชีพวิศวกรรมโยธา ต้องไม่ใช่การเปิดเสรีโดยเด็ดขาด แต่จะต้องกำหนดเงื่อนไขให้ชัดเจน ว่าสามารถเข้ามาได้ในกรณีใดบ้าง และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เพื่อขอรับใบอนุญาตหรือใบรับรองจากสภาวิศวกรเสียก่อน เพื่อให้สภาวิศวกรมีมาตรการในควบคุมและกำกับการทำงาน และจะต้องเข้ามาในฐานะลูกจ้างในสาขาที่ขาดแคลนเท่านั้น และเสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าง กระทรวงแรงงาน และสภาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดเงื่อนไขในการเข้ามาของต่างด้าวให้ชัดเจน ซึ่งกระทรวงแรงงานจะรับเรื่องนี้ไปพิจารณาต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image