นมผง-สบู่-ยาสีฟันแจ้งลดราคาแล้ว1-4 บาท-คน.คุมจานด่วนไม่เกิน35บาท

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากกรณีที่ราคาน้ำมันดีเซลลดลงนั้น ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากผู้ประกอบการสินค้า 9 หมวด ใน 21 หมวด ว่าทำให้ต้นทุนผลิตและค่าขนส่งลดลงประมาณ 14% ส่งผลให้มีการปรับลดราคาสินค้าลง 1-4 บาท/หน่วย ประกอบด้วย นมผง ปลากระป๋อง ข้าวสารบรรจุถุง ปูนซีเมนต์ สายไฟฟ้า เหล็ก น้ำปลา และสินค้าใช้ส่วนบุคคล เช่น สบู่ ยาสีฟัน อย่างไรก็ตามกรมก็ติดตามราคาสินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน 200 รายการอย่างต่อเนื่อง

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า สำหรับการดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) ได้หารือกับผู้ประกอบการตลาดสด ค้าปลีก หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อขยายตัวโครงการหนูณิชย์ โดยการจัดทำศูนย์อาหารหนูณิชย์ตามตลาดสด สาขาค้าปลีก โรงงานต่างๆ โดยศูนย์อาหารพร้อมใจกำหนดราคาขายจานด่วนไม่เกิน 35 บาท และจัดทำอาหารถุงไม่เกิน 30 บาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ อาทิ ตลาดยิ่งเจริญ ตลาดไอยรา เป็นต้น นอกจากนี้จะเตรียมหารือถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถานที่ราชการทำโครงการลักษณะเดียวกัน เพื่อเป็นการต่อยอดจากร้านอาหารหนูณิชย์ ที่คาดว่าเปิดครบ 1 หมื่นร้านภายในเดือนพฤษภาคมนี้

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า นอกจากนี้จะมีการจัดงานธงฟ้าลดค่าครองชีพ ซึ่งต้นปีนี้แยกเป็น 2 ส่วน คือ ธงฟ้าภาค 159 จุด ใน 14 จังหวัดภาคใต้ เริ่มเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้เลือกสถานที่ ซึ่งเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพชาวสวนยางตามนโยบายรัฐบาล ส่วนการจัดทำข้าวถุงแจกชาวสวนยางนั้น องค์การคลังสินค้ากำลังจัดหาข้าวและบรรจุถุง น่าจะเริ่มแจกได้ไม่เกินกุมภาพันธ์นี้ โดยแจกชาวสวนยางทั้งประเทศ

นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 27-31 มกราคมนี้จะจัดมหกรรมธงฟ้า ที่เมืองทองธานี นำสินค้าไปจำหน่ายราคาถูกกว่าปกติ 20-30% จำนวน 600 คูหา คาดมีประชาชนเข้างานกว่า 1.5 แสนคน และเงินสะพัดกว่า 40-45 ล้านบาท ต่อจากนั้นจะจัดธงฟ้าตรุษจีนที่กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ ช่วงวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์นี้ และจะทำเอ็มโอยูกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงมหาดไทย ในการโปรโมตและจัดทำตลาดกับการท่องเที่ยวไปด้วยกัน ผ่านโครงการตลาดต้องชม ซึ่งเดือนมกราคมเปิด 5 แห่ง และอีก 12 แห่งในเดือนกุมภาพันธ์ อาทิ ลพบุรี เลย ชุมพร นครปฐม เป็นต้น โดยเร็วๆ นี้ ส่วนการติดตามสถานการณ์น้ำมันปาล์มยังไม่มีสัญญาณขาดแคลนหรือตึงตัว และต้องทบทวนเพดานราคาน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภค แม้ผลปาล์มสดเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ อาจลดลงเหลือ 1 แสนตัน ต่ำกว่าความต้องการใช้ต่อเดือน 1.6 แสนตัน แต่เมื่อรวมกับสต๊อกน้ำมันปาล์มที่มีอยู่ ซึ่งเดือนธันวาคมอยู่ที่ 3.3 แสนตัน และผลผลิตปาล์มสดจะออกสู่ตลาดมากขึ้นในเดือนมีนาคม โดยราคาขายปาล์มกิโลกรัมละ 5.25-6 บาท/กก.

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image