จากกรณีที่ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี คู่กรณีปมหวย 30 ล้านบาท ของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ ถูกสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 (ศูนย์ประสานงาน) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ จังหวัดกาญจนบุรี ขณะที่คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรีเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง แต่ขณะเดียวกัน ครูปรีชา ก็ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ ศธจ.กาญจนบุรี ในเรื่องดังกล่าวด้วยนั้น
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมเอราวัณ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี โดยมี นายอนันต์ กัลปะ ศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)กาญจนบุรี และคณะกรรมการฯ เข้าร่วมประชุม โดยการประชุมในวันนี้มีวาระที่จะต้องร่วมกันพิจารณากรณีที่ ครูปรีชา ร้องทุกข์ขอเป็นธรรมในการดำเนินการทางวินัย ซึ่งเป็นการประชุมลับ และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง
นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวภายหลังจากการประชุมว่า เนื่องจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 ยังส่งข้อมูลที่เป็นเหตุประกอบของการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงมาไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ที่ประชุมจึงมีมติให้ส่งเรื่องกลับไปที่ สพม.8 เพื่อให้ดำเนินการให้ครบถ้วนตามขั้นตอนของกฎหมายที่จะเสนอให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 คือ ศธจ. ดำเนินการพิจารณาในการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงได้ ในส่วนของระยะเวลาขึ้นอยู่กับทาง สพม.8 ว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นเมื่อใด จากนั้น ศธจ.กาญจนบุรี ก็จะดำเนินการตามความเห็น สพม.8 ต่อไป ทั้งนี้ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้ตนต้องหนักใจแต่อย่างใด
นายอนันต์ กัลปะ ศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่ามติที่ประชุมให้ชะลอการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงกับ ครูปรีชา ออกไปก่อน จนกว่า สพม.8 ซึ่งเป็นต้นสังกัด จะดำเนินการให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งการประชุมในวันนี้ก็ได้นำเอกสารหลักฐานที่ ครูปรีชา นำมามอบให้ก่อนหน้านี้ มาให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรีได้ร่วมกันพิจารณาด้วย ดังนั้นทาง สพม.8 ก็จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ ครูปรีชา กล่าวอ้างให้ครบถ้วนสมบูรณ์ควบคู่กันไปด้วย จากนั้นก็ให้รายงานกลับมาที่ ศธจ.กาญจนบุรี เพื่อที่จะได้พิจารณาทบทวนองค์ประกอบความผิดทางวินัยในเรื่องของการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงอีกครั้ง
