เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานกำหนดแนวทางการประเมินประสิทธิภาพและติดตามการดำเนินงานขององค์การค้า ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีพบชุดนักเรียนค้างอยู่ในคลังสินค้าขององค์การค้าฯ ว่า จากการตรวจสอบของตน และนายสุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ พบในคลังสินค้ามีชุดนักเรียนค้างอยู่ในสต๊อก 509,600 แสนชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท เบื้องต้นคัดเลือกชุดนักเรียนที่อยู่ในสภาพดี 460,000 แสนชิ้นออกมาจำหน่ายให้ประชาชนในราคาถูก พร้อมทั้งมอบหมายให้นายสุเทพตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงว่าสินค้าค้างอยู่ในคลังมานานเท่าใด และเกิดขึ้นในช่วงที่ใครเป็นผู้อำนวยการองค์การค้าฯ หากมีหลักฐานชัดเจนว่ามีเจตนาสั่งซื้อสินค้าเกินจริงมาเก็บไว้ในคลังจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
นายธเนศพลกล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการฟ้องแพ่งเพื่อเรียกเงินจำนวน 2,100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี คืนจากธนาคารธนชาตให้กับ สกสค. เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการอนุมัติ ปิดบัญชี และเบิกถอนเงินของ สกสค.ที่ฝากไว้ไม่ถูกต้องนั้น ล่าสุดได้รายงานให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.รับทราบผลการดำเนินการแล้ว โดยนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ได้ส่งเรื่องให้อัยการเป็นผู้ทำเรื่องฟ้องแพ่งเพื่อเรียกเงินคืนจากธนาคารธนชาตแล้ว จากนี้ต้องว่ากันไปตามข้อกฎหมายต่อไป
นายสุเทพกล่าวว่า ได้แต่งตั้งนายอำนาจ วิชยานุวัติ ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ.เป็นประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีพบชุดนักเรียนอยู่ในคลังสินค้ากว่า 5 แสนชุด โดยจะเร่งสืบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบกรณีหนังสือโอนเข้าคลังไม่ครบ 5.3 แสนเล่ม ล่าสุดคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้บริหารองค์การค้าฯ และเจ้าหน้าที่รวม 2 ราย ซึ่งทั้ง 2 รายขอรายงานข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษรในวันที่ 27 เมษายน
