เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยกรณีที่โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับความเดือดร้อน จากนโยบายการบริหารการจัดการหนังสือเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายว่าในปีการศึกษา 2561 จะแจกหนังสือเรียนครบ 100% แต่ขณะนี้โรงเรียนได้รับการจัดสรรงบประมาณเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น แต่โรงเรียนสั่งซื้อหนังสือจากร้านค้ามาแล้ว แต่เมื่อผ่านไปหลายเดือน สพฐ.ยังไม่จัดสรรงบที่เหลือมาให้ ทำให้โรงเรียนได้รับความเดือดร้อน เพราะทางร้านค้าทวงค่าหนังสือเรียนมาตลอด ซึ่งปัญหานี้เกิดจากสำนักงบประมาณตัดงบส่วนนี้ไปครึ่งหนึ่ง ว่า ในปี 2561 อาจจะเป็นความคลาดเคลื่อนในการดำเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานในสังกัด ศธ.จึงมีการลดงบนังสือเรียนลงครึ่งหนึ่ง
นายบุญรักษ์ กล่าวว่า สพฐ.มีงบที่เกี่ยวข้องกับการเรียนฟรีอยู่ 5 รายการ ประกอบด้วย 1.ค่าเล่าเรียน 2.3 หมื่นล้านบาท 2.งบเครื่องแบบนักเรียน 2,000 ล้านบาท 3.งบพัฒนากิจกรรมผู้เรียน 2,000 ล้านบาท 4.งบอุปกรณ์การเรียน 2,000 ล้านบาท และ 5.หนังสือเรียน 5,000 ล้านบาท งบที่เป็นปัญหาคืองบหนังสือเรียนที่ยังได้ไม่ครบ ยังขาดไป 50% แต่งบส่วนอื่นๆ สพฐ.โอนไปให้แล้ว 70%
“มีคนถามว่า สพฐ. จัดการปัญหาอย่างไร ผมได้แนะนำให้โรงเรียนจัดสรรเงินใน 4 รายการ ซึ่งมีจำนวนมากกว่างบหนังสือเรียน มายืดหยุ่นบริหารค่าจ่ายไปก่อนได้ ซึ่งโรงเรียนที่สามารถบริหารงบยืดหยุ่นภายในได้ ก็ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม สพฐ.พยายามแก้ปัญหาด้วยการจัดสรรงบภายในของที่มีอยู่ประมาณ 1,300 ล้านบาท และรองบจากสำนักงบประมาณจัดสรรมาให้ครบอีก 1,200 ล้านบาท หากได้ครบ สพฐ.จะรีบจัดสรรงบให้กับโรงเรียนทันที” นายบุญรักษ์ กล่าว และว่า สำนักงบประมาณ และ สพฐ.ทำงาน และหารือร่วมกันตลอด ในการแก้ปัญหานี้ ส่วนจะได้งบนี้ภายในวันไหน ตนจะเร่งติดตามเงินสำนักงบที่เหลือประมาณ 1,200 ล้านบาท มาสมทบกับเงินของ สพฐ.โดยเร็ว ยืนยันว่า สพฐ.ไม่มีความขัดแย้งกับสำนักงบประมาณเลย ส่วนข้อกังวลที่ว่าทำให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจหรือไม่ ตนมองว่าไม่น่าจะกระทบมากเท่าไหร่
