บอร์ดกพฐ.เคาะเกณฑ์รับ น.ร.ปี’62 เปิดทาง ‘ร.ร.เตรียมอุดมฯ’ สอบก่อน

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม นายปิยะบุตร  ชลวิจารณ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมกพฐ. ว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์การการรับนักเรียนในสถานศึกษาสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2562 โดยปีนี้มีการแก้ไขปัญหาสำคัญ 2 เรื่องคือ การขยายจำนวนการรับเด็กต่อห้อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1และมัธยมศึกษาปีที่ 4 จากเดิมกำหนด ให้รับนักเรียนได้ห้องละ 40 คน ก็เปิดโอกาสให้ขยายได้ ไม่เกิน 5 คนต่อห้อง โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการรับนักเรียนของโรงเรียน เพื่อให้สถานศึกษามีอำนาจอนุมัติเบ็ดเสร็จ ภายในสถานศึกษาเอง ส่วนจำนวนการรับนักเรียนในระดับชั้นก่อนประถมศึกษา ให้คงไว้ห้องละ 30 คน และชั้นประถมศึกษาปีที่1 ให้คงไว้ห้องละ 40 คน เนื่องจากจำนวนเด็กเข้าเรียนน้อยลง นอกจากนี้ในส่วนของปฏิทินการสอบ ที่ประชุมเห็นว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะขยับช่วงเวลาการรับนักเรียนจากที่แล้วเสร็จประมาณปลายเดือนมีนาคม มาเป็นภายในเดือนมกราคม เพื่อให้ผู้ปกครองที่ลูกหลานยังไม่มีที่เรียนได้มีโอกาสเตรียมความพร้อมหาที่เรียนให้ลูกได้มากขึ้น ก่อนที่จะเปิดภาคเรียนที่ 1 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งทางสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) แจ้งว่า สามารถขยับปฏิทินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ตได้ โดยอาจจะต้องเลื่อนการสอบให้เร็วขึ้นอีก 2 เดือน

นายปิยะบุตร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณาว่า ที่ผ่าน เด็กที่มาสอบเข้าเรียนชั้นม.4 ในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง โดยเฉพาะโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ซึ่งสอบพร้อมกับโรงเรียนทั่วประเทศ ทำให้เด็กที่สอบพลาดจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  จะมีโอกาสในการไปเรียนอื่นได้ยาก เนื่องจากโรงเรียนทั่วไปก็รับเด็กเต็มหมดแล้ว แม้จะเป็นโรงเรียนเดิมของเด็กก็ตาม ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ดำเนินการสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนชั้นม.4 ก่อนโรงเรียนทั่วไป เพราะหากพลาดก็มีโอกาสไปสอบเข้าโรงเรียนอื่นได้ ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการอภิปรายว่า อยากให้โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงทั้ง 282 แห่ง สอบก่อน แต่ที่ประชุมเห็นว่า ในปีการศึกษา2562 ควรเริ่มที่โรงเรียนเตรียมอุดมฯ ก่อน เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง และเด็กสอบเข้าไม่ได้จำนวนมาก

“สำหรับสัดส่วนการรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียน กับการสอบคัดเลือก ให้คงไว้ที่ 60 : 40 ตามเดิม แต่ย้ำว่า ถ้าการรับเด็กในพื้นที่บริการไปตัดสิทธิเด็กทั่วไป โดยได้มอบหมายให้สพฐ. ไปคิดวิธีการว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เด็กทั้งประเทศได้มีโอกาสเรียนโรงเรียนที่มีคุณภาพสูงเท่าโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า ควรมีการสร้างคุณภาพสถานศึกษาที่เป็นแม่เหล็กให้ครบทุกอำเภอ โดยอย่างน้อยควรมีโรงเรียนคุณภาพสูงทั่วประเทศ 1,200 โรงเรียน เพื่อเด็กเรียนในพื้นที่ได้ ไม่ต้องย้ายเข้ามาเรียนในอำเภอ หรือจังหวัด  ซึ่งผมอยากให้ดำเนินการให้สำเร็จ ภายในวาระการดำรงตำแหน่งของกพฐ.ชุดนี้ ที่เหลือเวลาอีก 3 ปี”นายปิยะบุตรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image