สู้ค่าเช่าไม่ไหว! ย้าย ‘ศึกษาภัณฑ์สาขาราชดำเนิน’ ไป ‘ราชบพิธ’แทน

องค์การค้าฯ ต้าน ‘ยุบศึกษาภัณฑ์’ เผยเตรียมย้าย ‘ศึกษาภัณฑ์’ สาขาราชดำเนิน ไปราชบพิธ เหตุค่าเช่าแพง ไม่คุ้ม เสียงอ่อนยอมให้ถ่ายโอนบุคลากรซบสกสค.

กรณีนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) หาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินองค์การค้าโดยมีหนี้เร่งด่วนที่ต้องชำระคือ ค่ากระดาษและค่าจ้างพิมพ์ประมาณ 1,300 ล้านบาท เฉพาะดอกเบี้ยเดือนละ 5 ล้านบาท และมีรายจ่ายเงินเดือนพนักงานเดือนละ 40 ล้านบาท ขณะที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ตัดโควต้าการจัดพิมพ์หนังสือเรียนขององค์การค้าฯ เหลือ 70% เบื้องต้นนายอรรถพลจึงหารือร่วมกับผู้บริหารองค์การค้าของสกสค. ก่อนจะได้ข้อสรุปว่าจะศึกษากฎหมายเพื่อทำแผนการถ่ายโอนพนักงานองค์การค้ามายังสกสค. ซึ่งปัจจุบันองค์การค้ามีพนักงาน 1,200 คน นอกจากนี้มีแนวคิดจะยกเลิกสัญญากับร้านค้าตัวแทน 100 แห่งเพื่อเปิดซื้อขายเสรีแทน ยุบร้านศึกษาภัณฑ์ที่ขาดทุนทั่วประเทศ พร้อมทั้งหาช่องทางผลิตอุปกรณ์สะเต็ม วิทยาศาสตร์ สร้างรายได้ และที่สำคัญสั่งสำรวจทรัพย์สิน ที่ดิน เพื่อขายลดหนี้นั้น

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม นายวีระกุล อรัณยะนาค ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้า ของ สกสค. กล่าวว่า การปรับปรุงการทำงานขององค์การค้าฯ ต้องมองทั้งระบบ การทำงานต้องมีความเชื่อมโยงกับบุคลากรที่มีอยู่ โดยในส่วนของตนยืนยันว่า ไม่มีนโยบายที่จะยุบร้านศึกษาภัณฑ์ หรือเอาคนออกอย่างแน่นอน เพราะร้านศึกษาภัณฑ์ เป็นสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับองค์การค้าฯ มาโดยตลอด การพัฒนาปรับปรุงจะมองทั้งระบบไม่ใช่แค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง โดยร้านศึกษาภัณฑ์ใดที่ขาดทุน ไม่คุ้มค่า จะจัดทำแผนปรับปรุงเพื่อเพิ่มกำไร โดยปัจจุบันองค์การค้าฯ มีร้านศึกษาภัณฑ์อยู่ในความดูแลประมาณ 8-10 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามในส่วนของร้านศึกษาภัณฑ์ สาขาถนนราชดำเนินนั้น ก็ไม่ใช่การปิดหรือยุบร้าน แต่เป็นการย้ายจากถนนราชดำเนิน ซึ่งมีการขึ้นค่าเช่าที่ค่อนข้างแพง และจากการประเมินพบว่าหากยังอยู่พื้นที่เดิม อาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ดังนั้น จึงให้ย้ายร้านศึกษาภัณฑ์ สาขาถนนราชดำเนิน ไปอยู่ในที่ดินขององค์การค้าฯ แถวถนนราชบพิธแทน ซึ่งการย้ายร้านศึกษาภัณฑ์ สาขาถนนราชดำเนินมีการเตรียมความพร้อมมาก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่มีการยุบร้านศึกษาภัณฑ์ที่ขาดทุน จะถือว่าขัดต่อนโยบายของสกสค. หรือไม่ นายวีระกุล กล่าวว่า การประชุมร่วมกับสกสค. ที่ผ่านมา ถือเป็นการหารือและการยุบหรือปิดร้านศึกษาภัณฑ์ที่ขาดทุน เป็นข้อเสนอของทางสกสค. แต่ในส่วนของตนเอง จะดูเรื่องการบริการจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพ ปรับปรุงพัฒนาให้เกิดกำไรที่มากขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบกับบุคลากร เพราะการทำงานต้องเชื่อมโยงกับคนด้วย และคนที่ทำงานกับองค์การค้าฯ ก็อยู่ด้วยกันมานาน ดังนั้นการบริหารจัดการจะมองเพียงธุรกิจด้านเดียวไม่ได้ ต้องมองเรื่องบุคลากรด้วย

Advertisement

นายวีระกุล กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามตนจะเร่งจัดทำแผนปรับปรุงองค์การค้าฯ ให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจะเชิญร้านค้าตัวแทนมาหารือ เพื่อยกเลิกสัญญา โดยเฉพาะข้อตกลงที่ไม่ให้มีการขายข้ามเขต เพราะไม่มีประเทศไหนในโลกทำกัน ทุกร้านค้าควรมีสิทธิแข่งขันอย่างเสรี ขณะที่องค์การค้าฯ ยังต้องมีเงินหมุนเวียนในการลงทุน ดังนั้นจึงยังต้องให้มีการวางเงินมัดจำ ส่วนจะกำหนดสัดส่วนการวางเงินมัดจำเท่าไร อย่างไรนั้น ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ ขณะเดียวกันเป้าหมายของตนอยากให้มีร้านค้าตัวแทนกระจายไปในทุกพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อให้สามารถขายสินค้าได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนข้อเสนอที่ให้มีการถ่ายโอนบุคลากรขององค์การค้าฯ มาอยู่ที่สกสค. นั้น อยู่ระหว่างศึกษาข้อกฎหมาย ซึ่งหากสามารถทำได้ ตนก็ยินดี โดยต้องมีการประกาศให้รับโอนย้ายด้วยความสมัครใจ แต่ก็ต้องดูให้รอบคอบว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพราะคนขององค์การค้าฯ รับเงินเดือนจากการทำธุรกิจ ส่วนคนของสกสค.รับเงินเดือนจากรัฐ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระส่ำ! ยกเครื่ององค์การค้าทั้งระบบ เลิกสัญญา 100 ร้านค้า เล็งยุบ ‘ร้านศึกษาภัณฑ์’ขาดทุน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image