ร้อง! ศธ.ให้ทบทวนหลักสูตร หลังพบเนื้อหาบางส่วนลดทอนความเสมอภาคระหว่างเพศ (คลิป)

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.อังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล พร้อมด้วย นายอินรอน เชษฐวัฒน์ แกนนำเครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา เครือข่ายเยาวชน นักเรียนนักศึกษา และผู้ที่เคยถูกกระทำด้วยความรุนแรง กว่า 30 คน พร้อมป้ายข้อความว่า “ศธ.ช่วยที หลักสูตรการศึกษา คงความคิดชายเป็นใหญ่” “ศธ.ต้องส่งเสริมสิทธิความเท่าเทียมในสังคม” และ “การศึกษาต้องไม่บ่มเพาะความรุนแรงในครอบครัว” รวมตัวยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เรียกร้องให้เพิ่มหลักสูตรความเสมอภาคระหว่างเพศและ บรรจุในตำราการเรียนการศึกษา เช่น มีการเพิ่มกิจกรรมเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน โดยมี นายวีระกุล อรัณยะนาค  ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รับเรื่องแทน

น.ส.อังคณา กล่าวว่า เนื่องจากเนื้อหาบางส่วนในหลักสูตรการเรียนการสอน ยังขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง ในเรื่องสิทธิความเท่าเทียมระหว่างเพศ การให้เกียรติเคารพในสิทธิเนื้อตัวร่างกายผู้อื่น ซ่อนความคิดแบบชายเป็นใหญ่ มีส่วนในการบ่มเพาะความคิดความเชื่อที่ผิดๆ  มีส่วนทำให้ปัญหาความรุนแรงทางเพศ และความรุนแรงในครอบครัวในสังคมไทยทวีความรุนแรง สะท้อนจากข่าวความรุนแรงทางเพศ ซึ่งอันดับหนึ่งเป็นข่าวข่มขืน รองลงมาเป็นข่าวอนาจาร และข่าวพยายามอนาจาร ที่ผู้กระทำเป็นคนรู้จักคุ้นเคยหรือเป็นบุคคลในครอบครัว ขณะที่อายุของผู้ถูกกระทำส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 5-20 ปี และสาเหตุส่วนใหญ่มาจากระบบคิดแบบชายเป็นใหญ่ ซึ่งถือเป็นความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างเพศที่ผู้ชายมีอำนาจเหนือกว่า และจากปัจจัยกระตุ้นจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติด

​น.ส.อังคณา กล่าวต่อว่า ในวันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล ซึ่งในปี 2561 มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้ผลักดันมาตรการเพื่อสร้างความตระหนักรู้ เข้าใจ ป้องกันและแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง และครั้งนี้ได้มีข้อเสนอต่อ ศธ.ในฐานะผู้กำกับดูแลหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อนำไปพิจารณาปรับปรุง ดังนี้ 1.การตั้งคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำหลักสูตรเจนเดอร์ (Gender) หรือความเสมอภาคระหว่างเพศ (Gender Equality) ไปปรับใช้ในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงระดับอุดมศึกษา

“2.ให้ความสำคัญในการออกแบบหลักสูตรที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน ทุกเพศ ทุกวัย เคารพสิทธิเนื้อตัวร่างกายของตนเองและผู้อื่น ควรพัฒนา ปรับหรือแก้ไข และยกเลิกหลักสูตรที่มีการกดทับ ตอกย้ำความคิด ความเชื่อในการมองว่าเพศชายเหนือกว่าเพศอื่นๆ 3.พัฒนาบุคลากรด้านการศึกษา ปรับความคิดของครูให้มีความรู้ ความเข้าใจในการเคารพ สิทธิเนื้อตัวร่างกายของตัวเองและผู้อื่น มีแนวทางการสอนที่สอดคล้องกับ 3 ช่วงวัย คือ เด็กเล็ก เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น และ4. ผลักดันให้แต่ละสถานศึกษาจัดกิจกรรมเพื่อยุติความรุนแรง ต่อผู้หญิง และเด็ก ในเดือนพฤศจิกายนของทุกๆปี” น.ส.อังคณา กล่าว

Advertisement

​ด้าน นายอินรอน  กล่าวว่า ศธ.ต้องทบทวนการเรียนการสอน ต้องสอนให้เด็กเคารพสิทธิเนื้อตัวร่างกาย ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และผลักดันให้มีกิจกรรมที่เสริมสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศให้มากขึ้น  ส่วนครูผู้ปกครองต้องเน้นสอนลูกหลานให้เท่าทันมิติต่างๆ ที่มันเป็นอยู่ในปัจจุบัน ต้องไม่ครอบงำความคิดของเด็ก ต้องเปิดพื้นที่ให้เด็กได้แสดงออกอย่างเหมาะสม เพราะยุคนี้เป็นยุคที่วิชาลอยอยู่กลางอากาศ เด็กอยากรู้อยากเห็น คลื่นของข้อมูลมีจำนวนมาก ดังนั้นอย่าไปจำกัดความคิดของเด็ก อย่าไปยัดเยียด แต่ต้องกระตุ้นให้เด็กคิดอย่างหลากหลาย

นายวีระกุล กล่าวว่า ตนขอชื่นชมในความห่วงใยที่มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และเครือข่ายผู้ปกครองและนักศึกษาฯ มาร่วมให้ข้อเสนอแนะที่ดี ซึ่งตนจะนำเรียนต่อ นพ.ธีระเกียรติ ได้รับทราบและคาดว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรมได้ในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ศธ.มีนโยบายที่จะต้องดูแลเด็กและเยาวชนทั้งกายและใจ และในการจัดการเรียนการสอนที่ผ่านมาก็ได้เน้นย้ำเรื่องสิทธิความเสมอภาค ระเบียบวินัยอยู่แล้ว ตลอดจนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในการขับเคลื่อนกิจกรรมให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image