เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน นายสมบัติ ศรีสุพัฒน์ ศึกษานิเทศก์ ชำนาญการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)สมุทรสาคร เปิดเผยว่า ตนและกลุ่มผู้เข้ารับการประเมินวิทยฐานะ ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)ที่ศธ. 0206.3/ว13 เรื่อง การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ กำลังได้รับความเดือนร้อน เพราะยื่นข้อเข้ารับการประเมินไปตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 แต่จนถึงขณะนี้ผ่านมาเกือบ 2 ปี ก.ค.ศ. เพิ่งตรวจสอบคุณสมบัติได้ไม่ถึง10% ของจำนวนผู้เข้ารับการประเมินทั้งหมดประมาณ 5,300 คน และมีหนังสือแจ้งคุณสมบัติเพียงไม่กี่ราย และบางรายได้รับหนังสือแจ้งว่า ไม่มีคุณสมบัติ ทำให้เสียสิทธิ และขณะนี้มีผู้ทยอยยื่นฟ้องก.ค.ศ. แล้วหลายราย
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า ตอนนี้มีผู้ที่ยังไม่ได้รับหนังสือแจ้ง ว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติ หรือไม่มีคุณสมบัติ จากก.ค.ศ. อีกประมาณ 4,000 ราย และหลายรายกังวลว่า จะได้รับการแจ้ง ว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติ เพราะเท่าที่ดูจากการพิจารณารางวัลของก.ค.ศ. จะไม่พิจารณารางวัลเทียบเคียง เช่น มีรางวัลที่ตรง 2 รางวัล แต่มีรางวัลเทียบเคียง 1 รางวัล จะถูกปัดให้เป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติ ซึ่งถือว่า ไม่เป็นธรรม เพราะรางวัลเทียงเคียงที่ส่งให้พิจารณา ล้วนผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานต้นสังกัดหรือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แล้ว ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ก.ค.ศ. พิจารณารางวัลเทียบเคียง ถือว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติด้วย รวมทั้งเร่งพิจารณาและแจ้งผลให้ผู้เข้ารับการประเมินได้รับทราบต่อไป
“ตอนนี้กลุ่มที่ยังไม่ได้รับการแจ้งรู้สึกร้อนใจ และได้มีการรวมตัวเพื่อยื่นหนังสือถึงก.ค.ศ. ไปทบทวน ถ้ามีรางวัลใดเทียบเคียงได้ก็ขอให้พิจารณา เป็นผู้มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมิน เพราะหากรางวัลที่เสนอให้พิจารณา ไม่เข้าหลักเกณฑ์แล้ว คงไม่สามารถผ่านการกลั่นกรองจากสพฐ. มาได้ในรอบแรก ทั้งนี้เมื่อมีคุณสมบัติเข้ารับการประเมินแล้ว จะผ่านหรือไม่ผ่านการประเมิน ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพียงแต่ขอให้พวกเราได้มีโอกาสสู้ ไม่ใช่ตัดสิทธิโดยบอกว่าไม่มีคุณสมบัติ ซึ่งพวกเราไม่มีสิทธิโต้แย้งเลย”นายสมบัติกล่าว
