สอบทุจริตศธ.คืบกว่า 365 เรื่องสอบวินัยขรก.เฉียด100ราย!!

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม นพ.ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการทุจริต ศธ. ว่า ที่ประชุมรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาทุจริต ศธ. รวมทั้งหมด 10 หน่วยงานข้อมูลระหว่างเดือนสิงหาคม 2558 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2561 มีคดีทุจริตรวม 631 เรื่องดำเนินการแล้วเสร็จ 365 เรื่อง คิดเป็น 57.48% อยู่ระหว่างดำเนินการ 266 เรื่อง คิดเป็น 42.16% ภาพรวมถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ เช่น ทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สืบสวนเสร็จแล้ว 100%  อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย  โครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรือ อควาเรียมหอยสังข์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)  ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงผู้ที่เกี่ยวข้อง จาก 6 กระทรวงแล้ว  ในส่วนของศธ. ตั้งข้าราชการระดับ 11 จากนอกกระทรวงเป็นประธานสอบ ส่วนจะเป็นใครนั้น คงไม่สามารถบอกได้ และคงไม่เหมาะสมที่เปิดเผยชื่อประธานสอบสวนฯ ต่อสาธารณะ เพราะจะมีผลได้ ผลเสีย อีกทั้งประธานและกรรมการจะลำบากใจ

นพ.ธีระเกียรติ  กล่าวต่อว่า โครงการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ในโครงการSafe Zone School 12 เขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สพฐ.ดำเนินการตามสัญญา โดยนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้ส่งงบประมาณ ซ่อมแซมกว่า 10 ล้านบาท ลงไปให้โรงเรียนที่ได้รับผลกระทบแล้ว รวมถึงยังได้จัดสรรงบประมาณ ในการจัดซื้อซอฟแวร์ลงไปอีก 64 ล้านบาท เพื่อดำเนินการติดตั้งให้ครบ ตามเงื่อนไขการประกวดราคาหรือทีโออาร์ จากนี้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ต้องไปดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งพล.อ.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการศธ. ได้เร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยของครูและนักเรียน  ส่วนการสอบสวนวินัยนั้น ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งเสนอชื่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว  ประมาณ 70 ราย ของศธ. เป็นผู้บริหารระดับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ผู้อำนวยการโรงเรียน ส่วนกรรมการตรวจรับ 2,000 กว่าราย ทางทีมกฎหมายชี้ตรงกับทางศาลว่า ไม่เกี่ยวข้อง สำหรับผู้บริหารระดับสูงในศธ. ที่เกี่ยวข้องนั้น เบื้องต้นได้ถูกโยกไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรีก่อนแล้ว

พล.อ.โกศล กล่าวต่อว่า  ตนได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบการทุจริตเบิกเงินซ้ำซ้อน ซึ่งเกิดขึ้นใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 29 ตั้งแต่ปี 2557 ความเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท  สาเหตุที่เรื่องแดงขึ้นมา เพราะมีการทุจริตจนกระทั่งเงินในเขตพื้นที่ฯ หมดบัญชี  ไม่สามารถเบิกจ่ายให้โครงการที่อยู่ในระบบได้ โดยขณะนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้ชี้มูลมาแล้วให้สอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 11 ราย ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสพท. รองผู้อำนวยการสพท. 2 ราย ผู้อำนวยการกลุ่มการเงินเจ้าหน้าที่บางส่วน เรื่องนี้เป็นการโกงกันภายในเขตพื้นที่ฯ ไม่เกี่ยวข้องกับสพฐ. โดยได้ขอให้ทางสพฐ. ได้เคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นภายในสพม.29 ให้สะอาด ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบงบจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้น ของสพฐ. นั้น  ข้าราชการระดับ 8 จำนวน 2 ราย และผู้อำนวยการโรงเรียน 1 ราย ความผิดค่อนข้างชัดเจน  ส่วนผู้บริหารระดับสูง 2 ราย ทางสำนักนิติการ สำนักงานปลัดศธ. ได้ขอให้นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการศธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ได้หาความเชื่อมโยง ผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะสรุปได้เร็ว ๆนี้

“ความคืบหน้าการตรวจสอบตัวเลข บัญชีรายชื่อนักเรียนที่ไม่มีอยู่จริง หรือ เด็กผีนั้น สพฐ. ได้ตั้งคณะกรรมการลงไปสุ่มตรวจหลายโรงเรียน แต่อย่างไรก็ตาม ผมได้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)ทั้งทางภาคอีกสานตอนบน และตอนล่าง ทราบว่า ทางป.ป.ท. ลงไปตรวจสอบ 5 จังหวัด พบมีข้อมูลนักเรียนที่ผิดปกติทั้ง 5 ในจังหวัด คือ นครราชสีมา ชัยภูมิ อุบลราชธานี ยโสธร และศรีสะเกษ  โดยโรงเรียนสอนแก้วว่องไววิทยา  จังหวัดยโสธร มีข้อมูลค่อนข้างชัดเจน  มีตัวเลขนักเรียนเกินมาถึง 159 กว่าราย และส่วนใหญ่อายุเกิน 20 กว่าปี ซึ่งมีระบบการศึกษาทางเลือกและการศึกษานอกระบบของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.)  ทางป.ป.ท.กำลังจะส่งข้อมูลมาให้ผม  ซึ่งถ้าผิดจริงถือว่า ผิดวินัยอย่างร้ายแรง”พล.อ.โกศล กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image