เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม นายศักรินทร์ ภูมิรัตน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในฐานะรองประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2557 (ฉบับชั่วคราว) แก้ไขกฎหมายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ปรับนิยามผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง โดยให้ ป.ป.ช.ให้ใช้ดุลพินิจใหม่ว่าตำแหน่งใดต้องยื่นทรัพย์สินและหนี้สิน และตำแหน่งใดไม่ต้องยื่นทรัพย์สินและหนี้สินนั้น ถือเป็นเรื่องดีที่ใช้มาตรา 44 เพื่อให้นิยามคำว่าผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงใหม่ สำหรับสภา มจธ.นั้น มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแสดงความจำนงที่ต้องการลาออกหากต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ จริงจำนวนหลายราย เมื่อมีมาตรา 44 ออกมา เชื่อว่ากรรมการสภาคงจะได้ยินข่าวนี้แล้วจะมีความหวัง หากเกิดการเปลี่ยนแปลง คือกรรมการสภาไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ทาง มจธ.จะขอความกรุณากรรมการสภาเหล่านี้ให้เปลี่ยนใจไม่ลาออก ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
“ถ้ากรรมการสภาไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ผมเชื่อว่าจะไม่มีกรรมการสภารายใดของสภา มจธ.ลาออก ตอนนี้ยังไม่รีบร้อนทำอะไร ยังมีเวลาเหลืออยู่ถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 ก่อนที่ ป.ป.ช.จะประกาศชัดเจนก่อน สำหรับ ทปอ.จะเรียกประชุมหารือกันถึงประเด็นนี้หรือไม่ ผมไม่แน่ใจ เพราะ ทปอ.ได้ประชุมหารือร่วมกันตั้งแต่ที่มีประกาศ ป.ป.ช.ขึ้นมาเป็นครั้งแรกแล้ว ขึ้นอยู่กับนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และประธาน ทปอ.ว่าจะเชิญหารือร่วมกันหรือไม่” นายศักรินทร์ กล่าว
