นายกสภาราชภัฏเมืองคอน-นครพนม ชี้สถานการณ์คลี่คลายหลังสภามหา’ลัยไม่ต้องยื่นทรัพย์สิน

ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102(ฉบับที่ )พ.ศ.2561 แก้ไขโดยที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 21/2551เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ป.ป.ช.) และให้ยกเลิกการแสดงบัญชีทรัพย์สินของนายกและกรรมการสภาในสถาบันอุดมศึกษา และรวมถึงตำแหน่งประธาน กรรมการและเลขาธิการ อาทิ กองทุนการออมแห่งชาติ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันชีวิตกองทุนประกันวินาศภัย กองทุนสงเคราะห์ เป็นต้น โดยในส่วนของอธิการบดี รองอธิการบดีสถาบันอุดมศึกษายังคงต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตามเดิมนั้น

เมื่อวันที่ 26 มกราคม นพ.อุดม  คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า  หลังราชกิจจานุเบกษาประกาศเว้นตำแหน่งนายกสภา กรรมการสภา และกรรมการกองทุนต่าง ๆ นั้น เท่าที่ดูมหาวิทยาลัยรู้สึกดี แต่มีคำถามในส่วนของนายกสภา กรรมการสภา ที่ลาออกไปแล้วว่า จะขอกลับเข้ามาใหม่โดยอัตโนมัติได้หรือไม่ ทั้งนี้ตนขอย้ำว่า ใครที่ลาออกไปแล้ว ไม่สามารถกลับเข้ามาโดยอัตโนมัติได้ เพราะใบลาออกมีผลแล้ว หากอยากกลับเข้ามาต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหาใหม่เท่านั้น อย่างไรก็ตามประกาศนี้ยกเว้นเฉพาะนายกสภา กรรมการสภา เท่านั้นที่ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินส่วนอธิการบดี และรองอธิการบดี ยังต้องยื่นตามเดิม

“อธิการบดี รองอธิการบดีในมหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ยังต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตามเดิมเพราะถือเป็นส่วนราชการ ส่วนอธิการบดีสถาบันอุดมศึกษาในกำกับรัฐ 25 แห่งก็ต้องยื่น โดยสาเหตุที่ต้องระบุไว้ในประกาศ เพราะมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐมีกฎหมายเป็นของตัวเอง เข้าใจว่าป.ป.ช. ไปศึกษากฎหมายแต่ละฉบับอย่างละเอียด จึงต้องกำหนดให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้มีข้อโต้แย้ง”นพ.อุดมกล่าว

นายโกวิทย์ พวงงาม คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เมื่อ ป.ป.ช.ประกาศว่านายกสภา และกรรมการสภาไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแล้ว ถือเป็นเรื่องดี เพราะมหาวิทยาลัยจะได้ดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง ถือว่าเรื่องนี้คลี่คลายไปด้วยดี เพราะก่อนหน้านี้ ทั้งตน และกรรมการสภา มรภ.นครศรีธรรมราช 7-8 คน เตรียมยื่นลาออก แต่รอความชัดเจนจาก ป.ป.ช.ก่อน จึงระงับไว้ เมื่อไม่ต้องยื่นบัญชี ตน และกรรมการสภาก็พร้อมทำหน้าที่ต่อ

Advertisement

นายโกวิทย์กล่าวต่อว่า อย่างที่เคยพูดแล้วว่า นายกสภา และกรรมการสภา ไม่ใช่ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง เนื่องจากไม่ได้เข้าไปบริหาร หรือยุ่งเกี่ยวกับการเงิน งบประมาณ จัดซื้อจัดจ้างในมหาวิทยาลัย มีหน้าที่เพียงออกนโยบาย อนุมัติเรื่องวิชาการ เช่น หลักสูตร อนุมัติปริญญา และควบคุมดูแลการดำเนินงานของอธิการบดีในการบริหารมหาวิทยาลัย ว่าดำเนินงานตามนโยบายที่เคยให้ไว้หรือไม่เท่านั้น

“ทั้งนี้ อยากฝากไปยังมหาวิทยาลัยทุกแห่ง ที่นายกสภา และกรรมการสภาตื่นตูม ยื่นหนังสือลาออกไปก่อนหน้าที่จะมีประกาศ ป.ป.ช.ออกมา กระบวนการคัดเลือก สรรหา นายกสภาและกรรมการสภา โดยเฉพาะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จะต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะห่วงว่าฝ่ายมหาวิทยาลัยจะนำพวกเดียวกันเข้ามาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อมาเลือกอธิการบดี หรือเพื่อมาสนับสนุนการดำเนินงานต่างๆ ของอธิการบดี ซึ่งหากมีการดำเนินงานเช่นนี้จริง มหาวิทยาลัยจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ จึงอยากเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เข้ามากำกับดูแลให้กระบวนการคัดเลือกมีความโปร่งใสด้วย เพื่อให้ได้มาซึ่งนายกสภา และกรรมการสภา ที่มีประสบการณ์ และมีความเป็นกลาง” นายโกวิทย์ กล่าว

นายภาวิช ทองโรจน์ รักษาการนายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม กล่าวว่า ทราบข่าวแล้ว ถือเป็นเรื่องดีที่นายกสภา และกรรมการสภา ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เพราะหากพิจารณาบทบาทหน้าที่แล้ว ทั้งนายกสภา และกรรมการสภา ไม่มีบทบาทที่จะเข้าข่ายควรยื่นบัญชีทรัพย์สินเลย เพราะเป็นผู้ดูแลกำหนดนโยบาย และงานของมหาวิทยาลัยในเชิงวิชาการเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารงานด้านงบ ในทางกลับกันหาก ป.ป.ช.ยังยืนยังว่าต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน เชื่อว่าต่อไปมหาวิทยาลัยจะหาคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยออกความคิดเห็นในการบริหารงานต่างๆ ยากขึ้น ทำให้มุมมองการบริหาร แลแะการพัฒนาของมหาวิทยาลัยแคบลงไปด้วย

Advertisement

“เมื่อมีประกาศออกมา เชื่อว่าสามารถผ่อนคลายปัญหาไปได้มาก เพราะมีคนสนใจรอดูข้อสรุปจำนวนมาก อย่างมหาวิทยาลัยนครพนม มีกรรมการสภาลาออกก่อนไปแล้ว 3 ราย และมีกรรมการสภาเตรียมลาออก 4-5 ราย เมื่อชัดเจนแล้วว่าไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรรมการสภาที่เตรียมจะลาออกก็ยืนยันว่าจะทำงานต่อไป ส่วนกรรมการสภาที่ลาออกไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหากรรมการสภาใหม่ ซึ่งไม่มีปัญหา สามารถดำเนินการได้เลย” นายภาวิช กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image