โซเชียลแชร์ เด็กลงชื่อไล่ผอ. ร.รดัง- ‘ผอ.เตรียม’พร้อมแจงทุกกรณี
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเร็วๆนี้ สร้างแคมเปญรณรงค์ผ่าน www.change.org ขอให้นักเรียนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ร่วมลงชื่อสนับสนุนแคมเปญ “ปลดท่านผู้อำนวยการ ดร.โสภณ กมล ออกจากวาระในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา” โดยเนื้อหาในแคมเปญระบุว่า อย่างที่ชาวเตรียมอุดมศึกษา ทั้งนักเรียนและบุคลากรทุกคนทราบ ดร.โสภณ กมล ผู้อำนวยการคนปัจจุบันของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษานั้นได้มีการแนะนำนโยบายที่ไม่น่าจะเป็นที่ยอมรับและจะลดผลประโยชน์แก่ตัวนักเรียนและบุคลากรขึ้นในที่ประชุม ทั้งยังมีบทสนทนาทำนองดูหมิ่นนักเรียนและราวกับว่าจะไม่รู้จักโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเอาเสียเลย จึงถึงเวลาแล้ว ที่ชาวเตรียมอุดมศึกษาทุกคน จะได้พิจารณาเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของ ดร.โสภณ กมล ในฐานะผู้อำนวยการของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ผ่านการลงนามในครั้งนี้ ซึ่งถ้าหากการลงนามครั้งนี้เป็นผลสำเร็จ อาจเป็นผลให้ทางโรงเรียนได้พิจารณาเรื่องการปลด ดร.โสภณ กมล แล้วเปลี่ยนตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนให้แก่ผู้ที่เหมาะสมกว่าก็เป็นได้นั้น
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนรับรายงานว่ามีเว็บไซต์หนึ่งสร้างแคมเปญรณรงค์ร้องเรียนจากนักเรียนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ให้ปลดผู้อำนวยการโรงเรียนออก เนื่องจากมีนโยบายที่ไม่เป็นที่ยอมรับและจะลดผลประโยชน์แก่นักเรียนและบุคลากร ซึ่งตนติดตามเรื่องนี้อยู่เช่นกัน ทุกฝ่ายต้องมีเหตุผลชี้แจงกันไป เรื่องนี้อาจจะเป็นวิธีคิดวิธีบริหารที่ต้องไปพูดคุยทำความเข้าใจกัน
ด้านนายโสภณ กมล ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กล่าวว่า ตนเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนมา 2 เดือน แล้ว เบื้องต้นได้ศึกษางานของโรงเรียน ว่ามีข้อดีข้อเสีย มีจุดเด่นอะไรบ้าง ซึ่งยังไม่ได้เริ่มดำเนินโครงการใดๆ ในโรงเรียนแต่อย่างใด เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นเอกสารให้กับนักเรียน เท่าที่ทราบมีนักเรียนที่ไม่เห็นด้วยมีประมาณ 20 คน ตนพยายามบอกครู และนักเรียนว่ามีอะไรให้มาพูดคุย ทำความเข้าใจกัน
“ส่วนตัวไม่ซีเรียส ไม่ทำอย่างที่นักเรียนกล่าวหา พร้อมชี้แจงทุกอย่าง การบริหารงานต่างๆ ต้องสอบถามความเห็นจากนักเรียน และผู้ปกครอง เช่น กรณีการขึ้นค่าเทอม หรือการบริหารงานต่างๆ ต้องผ่านมติคณะกรรมการสถานศึกษา ที่พิจารณาถ้าไม่มีเหตุผลเพียงพอจะถูกซักถามหรือปัดตกไป แต่ต่อไปจะปรังปรุงระบบสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ภายในโรงเรียนเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับนักเรียนมากขึ้น เพราะโรงเรียนมีเนื้อที่กว่า 80 ไร่ เวลามีข่าวออกมาไม่สามารถที่จะสร้างเข้าเข้าใจที่ถูกต้องได้รวดเร็ว” นายโสภณ กล่าว
