มทร.รัตนโกสินทร์ประกาศ MOVE UP

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)รัตนโกสินทร์ ผศ.ศิวะ วสุนธราภิวัฒก์ อธิการบดี (มทร.)รัตนโกสินทร์ แถลงข่าวเปิดค่านิยมองค์กร รับปี 2562 MOVE UP ยกระดับพร้อมขับเคลื่อนให้มหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลิศด้านการผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติที่มุ่งจบออกไปเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ ว่า ขณะนี้ มทร. มีอายุครบ 14 ปี เหมือนเป็นมหาวิทยาลัยที่อายุยังไม่มาก แต่จริงๆแล้วการกำเนิดของ มทร.รัตนโกสินทร์ เป็นการรวมตัวกันของสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่ ประกอบด้วย มทร.รัตนโกสินทร์ พื้นที่ศาลายา  มทร.รัตนโกสินทร์ พื้นที่บพิตรพิมุข จักรวรรดิ  วิทยาลัยเพาะช่าง และ มทร.รัตนโกสินทร์วิทยาเขตวังไกลกังวล ซึ่งแต่ละพื้นที่มีจุดแข็งจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดยในปี  2562 นี้ มทร.รัตนโกสินทร์ ตั้งเป้าขับเคลื่อนเพื่อยกระดับมหาวิทยาลัยให้เป็นเลิศในหลายๆด้าน เริ่มด้วยการประกาศค่านิยมองค์กร MOVE UP  ให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยถือปฏิบัตินำไปใช้ทั้งเรื่องการทำงานและการเรียนการสอน โดย M (Move to innovation) คือ  ก้าวสู่นวัตกรรม  o (ownership) คือ สำนึกความเป็นเจ้าขององค์กร V (value) คือ สอนสร้างเสริมเพิ่มคุณค่า E (ethics)คือ ศรัทธาหลักธรรมาภิบาล u (unity) คือ สมัครสมานสามัคคี และ P (performance) คือ ประสิทธิภาพดีมีวินัย

ผศ.ศิวะ กว่าต่อว่า ในส่วนของหลักสูตรการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยได้สร้างหลักสูตรที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งสังคมการประกอบการ โดยหลักสูตรต่างๆ จะมุ่งสอนให้นักศึกษาเมื่อจบออกไปแล้วต้องทำงานเป็น ต้องเป็นบัณฑิตนักปฏิบัติ ที่เก่งและดี ทุกสาขาวิชาจะต้องใช้ระบบสหกิจศึกษาแทนการฝึกงาน โดยเข้าไปเรียนรู้ฝึกฝนในสถานประกอบการจริง 1 ภาคการศึกษาหรือ 4 เดือน การเรียนจะเน้นปฏิบัติ 70 % ส่วนอีก 30 % เป็นภาคทฤษฎี ซึ่งการเรียนภาคทฤษฎีนั้นเด็กสมัยนี้มีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี และหลักทฤษฎีต่างๆสามารถเรียนรู้ได้จากอินเทอร์เน็ต ดังนั้นอาจารย์มีหน้าที่ต้องเปลี่ยนทัศนคติให้เด็กได้อยากเรียน อยากรู้ และคอยเป็นผู้ให้คำแนะนำเด็กอย่างใกล้ชิด นำเทคโนโลยีมาช่วยในการให้คำปรึกษาอำนวยความสะดวกแก่นักศึกษา ทั้งกลุ่มไลน์ กลุ่มเฟสบุ๊ค ใช้การสื่อสารออนไลน์เพื่อให้คำปรึกษาได้อย่างสะดวกรวดเร็ว  ส่วนอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยก็พยายามจัดหาให้อย่างเพียงพอและให้มีความเหมือนกับที่สถานประกอบการใช้งานจริง เมื่อจบออกไปสู่สถานประกอบการจะสามารถลงมือทำงานได้ทันทีเพราะมีความคุ้นเคยกับเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆอยู่แล้ว

อธิการบดีมทร.รัตนโกสินทร์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนั้นตนยังมีแนวคิดอยากเปิดการสอนด้านวิทยาศาสตร์เวชศาสตร์ความงาม รวมทั้งหลักสูตรอาชีพที่ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุเรียนได้เพราะสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มมีหลักสูตรระยะสั้นๆในรูปแบบบริการวิชาการบ้าง เช่น วิทยาลัยเพาะช่าง ชำนาญเรื่องงานศิลปะก็เปิดสอนให้ผู้สูงอายุมาวาดรูป มาทำงานศิลปะ เป็นต้น และมีแนวคิดที่จะขยายฐานการรับนักศึกษาจากจังหวัดต่างๆมาเข้าเรียนใน มทร.รัตนโกสินทร์ มากขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image