โพลชี้ ปชช. 74.57% รู้จักวันมาฆบูชา

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า วธ.ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชนและประชาชนหัวข้อ “วันมาฆบูชา” สำคัญอย่างไร จากกลุ่มตัวอย่าง 5,335 คนทั่วประเทศ ผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 74.57 รู้ว่าวันมาฆบูชาซึ่งปีนี้ตรงกับ 19 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข์” แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรกในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะหรือเดือน 3 และร้อยละ 65.53 ตอบว่า มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกัน โดยมิได้นัดหมาย

นายวีระกล่าวต่อว่า สำหรับกิจกรรมที่ประชาชนจะทำในสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ประจำปี 2562 ร้อยละ 56.17 บอกว่า ตักบาตร รองลงมา ร้อยละ 54.74 ทำบุญ ทำทาน ร้อยละ 47.59 ลด ละ เลิก อบายมุข ร้อยละ 44.52 ชวนเพื่อน/คนในครอบครัว ไปวัด ร้อยละ 44.40 เวียนเทียน ร้อยละ 34.83 ฟังพระธรรมเทศนา ร้อยละ 27.59 ถวายสังฆทาน ร้อยละ 25.51 ถือศีล 5 ศีล 8 ร้อยละ 25.51 เข้าวัดปฏิบัติธรรม และร้อยละ 20.78 สวดมนต์ที่บ้าน

นายวีระกล่าวต่อว่า จากการสอบถามความเห็นว่าหลักธรรมใดที่ควรยึดถือปฏิบัติและนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ในช่วงวันมาฆบูชา ร้อยละ 72.89 บอกว่า ศีล 5 และร้อยละ 44.25 โอวาทปาฏิโมกข์ หลักคำสอนอันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา คือ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำกุศลให้ถึงพร้อม และการทำจิตให้ผ่องใส ร้อยละ 35.12 อริยสัจ 4 ประกอบด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ส่วนปัญหาเร่งด่วนที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่ต้องแก้ไข ได้แก่ 1.การใช้ความเชื่อ ความศรัทธาในศาสนาพุทธมาทำให้เกิดรายได้หรือข้าวของเงินทองให้กับตนเอง 2.ประเด็นด้านลบที่เผยแพร่ในสื่อต่างๆ 3.บุคคลที่แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ และหลอกลวงรับบริจาคเงิน และ 4.พระสงฆ์ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ฯลฯ

รัฐมนตรีว่าการ วธ.กล่าวด้วยว่า เมื่อถามว่า คิดว่ามีวิธีการใดที่จะส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ เข้าวัดมากขึ้น ได้แก่ 1.จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา รณรงค์ให้เด็กและเยาวชนเข้าวัด ปฏิบัติธรรม การทำความดี ถือศีล 5 ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาหรือทุกวันพระ โดยใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงร่วมเชิญชวน อาทิ ดารา ศิลปินนักร้อง เป็นต้น 2.ส่งเสริมเด็กนักเรียนให้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาอย่างสม่ำเสมอ 3.หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนควรบูรณาการร่วมกันจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมและปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้แก่เด็กเยาวชน และ 4.พระสงฆ์ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเทศน์ที่ทำให้น่าสนใจ ไม่น่าเบื่อ และแฝงไว้ด้วยคำสอนที่เข้าใจง่าย

Advertisement

นายวีระกล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อถามว่า กิจกรรม/ประเพณีทางพระพุทธศาสนาที่ควรสืบสานและฟื้นฟู ได้แก่ 1.การประกวดสวดมนต์ แข่งขันตอบปัญหาธรรมะ เพราะเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ สอดแทรกความรู้ สาระที่เป็นประโยชน์ และช่วยกระตุ้นให้เด็กสนใจเข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้น และ 2.การปฏิบัติธรรม และการนั่งสมาธิ เพราะคนยุคสมัยใหม่ไม่ค่อยนิยมการเข้าวัดปฏิบัติธรรม แต่การจะสืบสานก็ควรปรับเนื้อหาให้เข้ากับยุคสมัยไม่ย่ำอยู่กับที่ จะทำให้คนยุคใหม่เข้ามาสนใจมากขึ้นได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image