ขรรค์ชัย-สุจิตต์ ทอดน่องสระศักดิ์สิทธิ์ เมืองสุพรรณ เชื่อโยงต้นกำเนิดบรรพชนกษัตริย์อยุธยา

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการออกอากาศรายการ ‘ขรรค์ชัย-สุจิตต์ ทอดน่องท่องเที่ยว’ ตอน ‘น้ำศักดิ์สิทธิ์ของพญานาคจากสระทั้งสี่เมืองสุพรรณ’ ดำเนินรายการโดยนายเอกภัทร์ เชิดธรรมธร เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กมติชนออนไลน์ โดยมีผู้ร่วมรับชมและแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

นายสุจิตต์ วงษ์เทศ  คอลัมนิสต์เครือมติชน กล่าวว่า สระศักดิ์สิทธิ์ที่เมืองสุพรรณทั้ง 4 สระ ได้แก่ สระแก้ว สระคา สระยมนาและสระเกษ ปัจจุบันตั้งอยู่ในเทศบาลตำบลท่าเสด็จ จังหวัดสุพรรณบุรี สมัยก่อนเดินทางมายากมาก แต่ปัจจุบันสะดวกสบาย ถูกจัดเป็นสวนสาธารณะอย่างดี เมื่อตนตรวจสอบเอกสารโบราณย้อนกลับไปทั้งหมด โดยเฉพาะพระราชหัตถเลขาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้ฉุกคิดว่าสระเหล่านี้เกี่ยวข้องกับราชวงศ์สุพรรณภูมิซึ่งมีบทบาทสูงต่อเมืองสุพรรณ อีกทั้งสัมพันธืกับถิ่นฐานเดิมของบรรพชนกษัตริย์อยุธยา นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดเมื่อมีพระราชพิธีสำคัญจึงมาตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสระเหล่านี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

“รัชกาลที่ 5 เสด็จสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ใน พ.ศ.2451 และทรงบันทึกไว้ว่ามีเจ้าพนักงานคอยดูแลสระน้ำประจำอยู่ที่นี่ โดยเป็นตำแหน่งที่สืบมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ถึงรัตนโกสินทร์ เพิ่งมายกเลิกไปสมัยรัชกาลที่ 7 นี้เอง ในอดีตน้ำคือเรื่องใหญ่สำหรับคนโบราณ ยิ่งย้อนกลับไปนับพันปี น้ำคือหัวใจในการตั้งชุมชน บ้านเรือน ใครคุมน้ำ คนนั้นมีอำนาจ เชื่อว่าเดิมที่นี่คือตาน้ำซับที่ไม่แห้งเลยตลอดปี กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาจึงค่อยขยายและพัฒนาเป็นสระในภายหลัง ส่วนชื่อสระแก้ว สระคา สระยมนาและสระเกษ คงมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา จึงใช้สืบมาถึงทุกวันนี้ โดยไม่มีใครกล้ากินน้ำในสระ เพราะเชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งฝนตกหนัก น้ำล้นจากสระลงไปถึงทุ่งนา ปูปลาแหวกว่ายตามกระแสน้ำ ชาวบ้านก็จับไปกิน ปรากฏว่าคนกินเป็นโรคคุดทะราดกันหมด จากนั้นมาชาวเมืองสุพรรณไม่กล้าจับสัตว์น้ำในสระอีกเลย” นายสุจิตต์กล่าว

จากนั้น เดินทางต่อไปยังเมืองโบราณบึงกระเทียม และศาลเจ้าพ่อศาลเจ้าพ่อสุนทัน ของชาว ‘ลาวเวียง’ แล้วเยี่ยมชมพระปรางค์วัดพระธาตุสวนแตง ตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง

นายสุจิตต์ กล่าวว่า เมืองบึงกระเทียม เกิดขึ้นหลังเมืองอู่ทองซึ่งลดความสำคัญลง เคยพบเศษภาชนะดินเผาอายุราว พ.ศ.1500-1600 เป็นจำนวนมาก หลักฐานสำคัญคือคูน้ำคันดินขนาดใหญ่ การเกิดขึ้นของพระธาตุสวนแตง ก็แสดงให้เห็นว่ามีชุมชนขนาดใหญ่อยู่บริเวณนี้ พระปรางค์ดังกล่าว ได้รับการบูรณะส่วนของ ‘นภศูล’ โดยกรมศิลปากรร่วมกับนายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานฯ บมจ.มติชน สร้างเลียนแบบของเก่า นายบรรหาร ศิลปาชา เป็นผู้เชิญประดิษฐานอย่างสง่างาม

นายขรรค์ชัย บุนปาน กล่าวว่า ตนและนายสุจิตต์ เคยเดินทางมาถึงพระปรางค์องค์นี้ตั้งแต่เป้นนักศึกษาคณะโบราณคดี ม.ศิลปากรเมื่อราว 50 ปีก่อน โดยเดินทางมาพร้อมศาสตราจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม ต้องเดินลัดทุ่งนา พระปรางค์ยังผุพังยังไม่มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ดังเช่นปัจจุบัน  เมืองสุพรรณเป็นเมืองใหญ่และสำคัญมาก นอกเหนือจากแหล่งโบราณสถาน ขอให้หน่วยงานต่างๆอย่าละเลยการดูแลภูมิทัศน์โดยภาพรวม โดยเฉพาะแหล่งน้ำลำคลองรวมถึงคูเมืองโบราณต่างๆให้มีประโยชน์ต่อผู้คนในปัจจุบันดังเช่นคูเมืองอู่ทอง

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่