เมื่อวันที่ 25 เมษายน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า ที่ประชุมหารือแนวทางแก้ปัญหากรณี บัญชีของสกสค. และองค์การค้าฯ ถูกอายัด จำนวน 224,409,356.52 บาท ตามคำพิพากษาของศาล กระดาษ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 ที่บริษัท ซี เอ.เอส เปเปอร์ จำกัด ฟ้องสกสค. กรณีองค์การค้าฯ ค้างชำระค่า ทำให้องค์การค้าฯ ไม่มีจ่ายเงินเดือนพนักงาน ดังนั้นที่ประชุมจึงมอบหมายให้สกสค. ช่วยหาเงินแก้ปัญหาในส่วนนี้ก่อน ขณะเดียวกันตนยังได้ส่งหนังสือของบสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน จำนวน 114,160,403 บาท ไปยังสำนักงบประมาณ หากได้รับการอนุมัติ ก็จะนำมาหมุนเวียนเพื่อแก้ปัญหาต่อไป
นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการศธ.ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค. กล่าวว่า ที่ประชุมขอให้องค์การค้าฯ ไปพิจารณาตัวเลขที่เหมาะสม เพราะข้อมูลที่องค์การค้าฯ เสนอมาค่อนข้างยิบย่อย ขณะเดียวกันสกสค. ยังตั้งข้อสังเกตว่า กรณีคำพิพากษาของศาล เป็นเพียงศาลชั้นต้น แต่เหตุใดในช่วงนั้นจึงไม่มีการยื่นอุทธรณ์ ดังนั้นจึงต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาข้อสรุป ส่วนการยื่นอุทธรณ์นั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ทันแล้ว เพราะเลยกำหนดเวลา อย่างไรก็ตามหลังจากถูกอายัดบัญชี สกสค.ได้แก้ปัญหาเบื้องต้น โดยยื่นอัยการเพื่อคัดค้านการอายัดบัญชี โดยศาลนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 8 กรกฎาคม เสนอของบฯฉุกเฉิน รวมถึงยื่นคำร้องขอเจรจาไกล่เกลี่ย โดยศาลนัดไกล่เกลี่ย วันที่ 21 พฤษภาคมนี้
“ส่วนกรณีที่องค์การค้าฯ ระบุว่า จะนำเงินที่ได้จากการชำระค่าหนังสือ เรียนจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มาจ่ายเงินเดือนพนักงานเดือนเมษายนนี้นั้น ขณะนี้เงินจากสพฐ. ยังไม่ได้ ดังนั้นทางสกสค. จะต้องหาเงินมาช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้ ซึ่งทางองค์การค้าฯ เสนอขอมา 45 ล้านบาท ซึ่งมีรายงานค่อนข้างยิบย่อย โดยที่ประชุมมอบหมายให้องค์การค้าฯ ไปทำตัวเลขใหม่ โดยพิจารณาขอเฉพาะในส่วนที่จำเป็นต้องจ่าย หากรายการใดไม่จำเป็นชะลอได้ก็ชะลอ เช่นเงินเดือนผู้บริหาร ”นายอรรถพลกล่าว