เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ตนได้ลงนามประกาศคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ ประจำปี 2562 จำนวน 304 อัตรา แบ่งเป็น รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 248 อัตรา และรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) จำนวน 56 อัตรา เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน ถึงวันที่ 5 กรกฎาคม ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกวันที่ 12 กรกฎาคม ประเมินภาค ก และภาค ข ตามที่คณะกรรมการสรรหากำหนด สอบข้อเขียนภาค ก วันที่ 29 กรกฎาคม ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกภาค ก และภาค ข วันที่ 2 กรกฎาคม ประเมินภาค ค ตามที่คณะกรรมการสรรหากำหนด สัมภาษณ์ ภาค ค วันที่ 9-11 สิงหาคม ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกภายในวันที่ 16 สิงหาคม โดยไม่มีการขึ้นบัญชี คาดว่าจะเสร็จสิ้นไม่เกินกลางเดือนกันยายน บรรจุแต่งตั้งได้ทันวันที่ 1 ตุลาคม เพื่อให้การทำงานมีความต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผู้ได้รับการคัดเลือกต้องผ่านการพัฒนาก่อนบรรจุแต่งตั้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือน ผู้ได้รับการบรรจุแต่งตั้งต้องเข้ารับการประเมินผลการปฏิบัติงานในหน้าที่เป็นเวลา 1 ปี
นายสุเทพกล่าวต่อว่า จากนี้ทาง สพฐ.มีนโยบายเร่งดำเนินการสอบจัดสอบตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา ทั้งผู้อำนวยการ สพท. รองผู้อำนวยการ สพท. ผู้อำนวยการโรงเรียนและรองผู้อำนวยการโรงเรียน ให้สามารถบรรจุแต่งตั้งได้ทันวันที่ 1 ตุลาคม เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศในการทำงาน โดยจะเสนอให้คณะกรรมการ ก.ค.ศ.พิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การสรรหาตำแหน่งผู้บริหารการศึกษาทั้งหมด เบื้องต้นในส่วนของผู้อำนวยการ สพท. และรองผู้อำนวยการ สพท. สพฐ.ดำเนินการจัดสอบเช่นเดิม แต่จะให้มีการขึ้นบัญชี 2 ปี ส่วนการสอบผู้อำนวยการโรงเรียนและรองผู้อำนวยการโรงเรียน กระจายอำนาจให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ดำเนินการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนด จุดสำคัญคือให้มีการสอบภาค ก และประเมินประวัติการทำงานแบบ 360 องศา แต่ละ กศจ.สามารถจัดสอบได้ทันทีที่มีอัตราว่าง ไม่ต้องรอประกาศปฏิทินการสอบจาก สพฐ.เหมือนที่ผ่านมา ส่วนข้อกังวลที่ว่า การประเมินแบบ 360 องศาจะเกิดการเล่นพรรคเล่นพวกเพื่อให้ได้ตำแหน่งนั้น ทาง สพฐ.จะมีคณะกรรมการในการกำกับดูแลเพื่อให้การดำเนินการโปร่งใสและเป็นธรรม เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา
“หากดำเนินการตามนี้ เชื่อว่าต่อไปปัญหาขาดแคลนผู้บริหารสถานศึกษาโดยเฉพาะผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดขึ้นมานานจะหมดไป เพราะแต่ละจังหวัดสามารถประเมินได้ว่าแต่ละปีจะมีผู้บริหารโรงเรียนเกษียณอายุราชการกี่ราย และสามารถเปิดสอบได้ล่วงหน้าก่อนที่จะเกษียณ เพื่อบรรจุแต่งตั้งให้ได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งคาดว่าจะเสนอให้บอร์ด ก.ค.ศ.พิจารณาได้ภายในเดือนนี้ หาก ก.ค.ศ.เห็นชอบ กศจ.แต่ละจังหวัดสามารถเปิดสอบคัดเลือกรองผู้อำนวยการโรงเรียนที่ว่างสะสมกว่า 4,000 อัตราได้ทันที รวมถึงสามารถเตรียมแผนคัดเลือกผู้บริหารการศึกษาที่จะเกษียณในวันที่ 30 กันยายน 2562 นี้ได้ด้วย โดยปีนี้จะมีอัตราผู้อำนวยการ สพท.ว่าง 35 อัตรา รองผู้อำนวยการ สพท.ว่าง 116 อัตรา ผู้อำนวยการโรงเรียน 2,294 อัตรา และรองผู้อำนวยการโรงเรียน 330 อัตรา” นายสุเทพกล่าว
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังลงนามในประกาศคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี 2562 จำนวน 4,804 อัตรา รับสมัครวันที่ 18-24 กรกฎาคม ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก 30 กรกฎาคม ประเมินประวัติและผลงานระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวันที่ 9 สิงหาคม สอบข้อเขียนภาค ก และภาค ข วันที่ 10 สิงหาคม สอบสัมภาษณ์ วันที่ 11 สิงหาคม ประกาศผลการคัดเลือกภายในวันที่ 16 สิงหาคม ทั้งนี้ สำหรับสาขาขาดแคลน อาทิ กายภาพบำบัด ซึ่งมักจะไม่มีผู้สมัครสอบขึ้นบัญชี ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาอัตราว่าง สพฐ.จะเสนอให้ ก.ค.ศ.พิจารณา ปรับปรุงหลักเกณฑ์โอนอัตราดังกล่าวไปจัดสอบอีกรอบในการสอบครูผู้ช่วยรอบทั่วไป เพื่อไม่ให้มีอัตราว่างและสามารถบรรจุแต่งตั้งได้ทันตามกำหนด
