เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จาก กรณีที่นักเรียนทำพานไหว้ครูในลักษณะล้อการเมือง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างในโลกออนไลน์ นั้นส่วนตัวเห็นว่า เป็นการแสดงออกในพื้นที่ของเด็ก ที่มีอำนาจและทรงพลังมากในการสื่อความเข้าใจ หลังถูกกดทับและไม่มีโอกาสได้แสดงออกมานานกว่า 5 ปี ทำให้สังคมเกิดความตื่นตัว โดยแต่ละพานที่เด็กจัดทำขึ้น สื่อสัญลักษณ์ทั้งอำนาจนิยม และประชาธิปไตย แสดงให้เห็นว่า เด็กทุกวันนี้มีความคิดที่ดีกว่าผู้ใหญ่บางคน ซึ่งในประเทศอื่น ๆ ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกได้อย่างเสรี แต่ประเทศไทยกลับนำมาเป็นเรื่องเฮดสปีช สร้างความรุนแรง เกลียดชัง ให้เกิดขึ้นในสังคม ทั้งที่ควรจะนำมาเป็นกรณีศึกษา โดยเฉพาะโรงเรียนควรนำเรื่องนี้เข้าไปสอนให้เด็กเข้าใจ และเรียนรู้วิถีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่ปิดกั้นหรือห้ามเด็กไม่ให้กระทำเรื่องดังกล่าว เพราะเด็กทุกวันนี้ ยิ่งห้าม เหมือนยิ่งยุ สั่งปิดกั้น เด็กก็จะยิ่งต่อต้าน ไปแสดงออกนอกห้องเรียนแทน
“ผู้ที่เกี่ยวข้องควรเคารพพื้นที่การแสดงออกของเด็ก โรงเรียนควรใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน เพื่อให้ยอมรับในความแตกต่าง ไม่ใช่สั่งห้ามปิดกั้น และอย่าไปรังแกเด็ก ที่แสดงความคิดเห็นเรื่องประชาธิปไตยซึ่งเป็นเรื่องหอมหวาน”นายสมพงษ์ กล่าว
นายเลิศศิลป์ รัตนมุสิก ผู้อำนวยการโรงเรียนหอวัง กล่าวว่า ทางโรงเรียนไม่ได้ปิดกั้นการแสดงออกของเด็ก โดยทางโรงเรียนจัดให้มีการประกวดพานไหว้ครู ซึ่งมีทั้งประเภท สวยงาม และประเภท ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจากที่สอบถามนักเรียนที่จัดทำพานดังกล่าว พบว่า เด็กไม่ได้มีเจตนาสื่อถึงประเด็นการเมือง แต่ต้องการสื่อถึงความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่โซเชียลมีการตีความไปค่อนข้างเร็ว
“ผมไม่อยากให้แปลไปเป็นเรื่องไม่ดี เด็กเองไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ให้เด็กได้มีโอกาสใช้ความคิดสร้างสรรค์ การจะไปบล็อกความคิดเด็ก เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ และไม่ควรทำ ซึ่งเด็กเองไม่ได้มีเจตนาตีความไปเป็นประเด็นการเมือง ตั้งใจแสดงให้เห็นถึงความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยากให้คนไทยมีความรักสามัคคี และแต่บังเอิญว่าสังคมโซเชียลไปเร็ว ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ และบังเอิญลักษณะพานไปตรงกับโรงเรียนอื่นจึงกลายเป็นประเด็น” นายเลิศศิลป์กล่าว
นายวิสิทธิ์ ใจเถิง ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) กล่าวว่า การแสดงออกของเด็กไม่ถือว่ามีความผิด แต่ในฐานะที่ตนเป็นครูมาตลอดชีวิต อยากให้มองถึงจุดประสงค์หลักของการไหว้ครู ซึ่งเป็นประเพณีที่จัดขึ้นเพื่อ บูชา รำลึกถึงพระคุณครู ดังนั้นจึงไม่ควรนำเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง การแสดงออกทางความคิดของเด็ก กับการทำพิธีไหว้ครู ถือเป็นคนละเรื่อง แม้การแสดงออกของเด็กจะไม่ถือว่ามีความผิด แต่ก็อยากให้มองถึงความเหมาะสม พิธีไหว้ครูถือว่ามีความสำคัญ ให้ศิษย์ได้บูชาครู เพื่อรำลึกถึงพระคุณ
