เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้แจ้งให้รับทราบว่า เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน สพฐ. ได้ออกประกาศ สพฐ. เรื่อง ประกาศเจตจำนงสุจริตในการบริหารงาน ของสพฐ. ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 พ.ศ. 2560-2564 กำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตเชิงรุก เป็นกลยุทธ์สำคัญในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ทางสพฐ. จึงได้จัดทำประกาศเรื่องดังกล่าว มีนัยสำคัญเพื่อให้สพฐ. และหน่วยงานในสังกัด ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) โรงเรียน ได้ทำงานต่าง ๆ ด้วยความซื่อสัตย์ ยึดหลักธรรมาภิบาล และประโยชน์สาธารณะในการบริหารงานเป็นสำคัญ รวมถึงพัฒนาระบบป้องกันการทุจริตในเชิงรุก เพื่อสร้างกลไกและกระบวนการป้องกันการทุจริตให้มีความเข้มแข็ง รู้เท่าทันต่อเหตุการณ์ ทั้งนี้ควรต้องสร้างวัฒนธรรมที่จะยึดระบบความรับผิดชอบ ความโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล
“เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญ ซึ่งผมอยากให้หน่วยงานในสังกัดทุกแห่งปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันและป้องปราบการทุจริต โดยจะต้องไม่เพิกเฉยต่อการยับยั้งการทุจริต การทำงานต้องไม่มีผลประโยชน์ ทับซ้อน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์โดยเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สพฐ. ยังได้ออกประกาศมาตรการภายในเพื่อส่งเสริมความโปร่งใส ใน 7 ข้อ คือ 1 มาตรการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ ซึ่งส่วนตัวคิดว่า ปัญหาที่มีการเดินขบวนในโรงเรียนต่าง ๆ ส่วนหนึ่งอาจเกิดความเข้าใจข้อมูลทางราชการคลาดเคลื่อน ดังนั้น จึงต้องส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะในช่องทางต่าง ๆ 2 มาตรการให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วม 3 มาตรการส่งเสริมความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง 4 จัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริต ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งสร้างความเข้าใจ และแก้ไข สอบสวนอย่างรวดเร็ว 5 มาตรการป้องกันการรับสินบน ในทุกทาง 6มาตรการป้องกันการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนรวม อย่างเช่น ผู้อำนวยการโรงเรียน จะให้ภรรยามาเปิดร้านขายของในโรงเรียนไม่ได้ และมาตรการการตรวจสอบการใช้ดุลยพินิจ ทั้งนี้มาตรการดังกล่าว สอดคล้องกับประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และประกาศให้หน่วยงานในกำกับสพฐ. รับทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ แล้ว