เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม นายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ตนได้เข้าชี้แจงต่อศาลปกครองกลาง กรณีที่นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการศธ. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)ร้องศาลปกครองกลางเพื่อขอให้มีการคุ้มครองฉุกเฉินและเพิกถอนมติที่ประชุมคณะกรรมการสกสค.ครั้งที่ 5/2562 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 และคำสั่งที่ 2/2562 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 แต่งตั้งนายณรงค์ แผ้วพลสง ผู้ตรวจราชการศธ. เป็นเลขาธิการ สกสค. เนื่องจากเห็นว่า กระบวนการดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมายและขาดความโปร่งใสนั้น ตนได้ชี้แจงต่อศาลไปตามข้อเท็จจริง โดยเฉพาะประเด็นที่นายอรรถพล กล่าวหาว่า ตนเป็นคู่ปฏิปักษ์ เนื่องจากนายอรรถพล เคยเป็นประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตนกรณีทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต และเป็นประธานคณะสืบสวนข้อเท็จจริงนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ในช่วงที่ถูกตรวจสอบกรณีทุจริตครุภัณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งไม่เป็นความจริง เนื่องจากทั้งตนและนายบุญรักษ์ ไม่ได้ถูกลงโทษทางวินัย ละนายอรรถพล เองก็เป็นประธานสืบสวนข้อเท็จจริง ไม่ใช่ประธานสอบวินัย ดังนั้นจึงไม่ใช่คู่ปฏิปักษ์กันอย่างแน่นอน
“ในส่วนของตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้า(อค.)ของสกสค. คณะกรรมการองค์การค้า ของสกสค. ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการองค์การค้าฯ วันที่ 28 พฤษภาคม มีมติเลือกนายอดุลย์ บุสสา อดีตรองผู้อำนวยการองค์การค้าฯ เป็นผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการศธ. สั่งชะลอการแต่งตั้งนั้น ต้องรอฟังคำตัดสินของศาล กรณีการสรรหาเลขาธิการสกสค. ด้วย หากศาลตัดสินหรือมีคำแนะนำการสรรหาเลขาธิการสกสค. ในครั้งนี้ไปในทิศทางใด การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ก็ต้องเป็นไปในทิศทางนั้น เพราะเป็นคณะกรรมการชุดเดียวกัน ซึ่งหากศาลมีคำพิพากษาว่า มติคณะกรรมการสกสค. และคำสั่งแต่งตั้งชอบด้วยกฎหมาย ก็จะต้องเรียกผู้ได้รับการสรรหาทั้งเลขาธิการสกสค. และผู้อำนวยการองค์การค้าฯ มาทำสัญญาจ้างภายใน 7 วัน แต่หากศาลพิพากษาว่า มติคณะกรรมการสกสค. ไม่ชอบด้วยกฎมาย ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ คือให้รัฐมนตรีว่าการศธ.คนใหม่ พิจารณา ซึ่งรัฐมนตรีว่าการศธ. อาจพิจารณาผู้เหมาะสมตามที่คณะกรรมการสรรหาฯ คัดเลือกไว้เดิม หรือเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด ก็สามารถทำได้ โดยทั้งหมดต้องรอฟังคำสั่งศาล ถือเป็นที่สิ้นสุด ว่าอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น”นายประเสริฐกล่าว
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ส่วนตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภาซึ่งนายสมคิดสั่งให้เลื่อนออกไป เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่ากระบวนการสรรหาไม่เป็นไปตามกฎหมายนั้น การประชุมคณะกรรมการคุรุสภาเพื่อเลือกผู้เหมาะสมในครั้งนั้น ยังไม่เริ่มต้น ถือเป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการศธ. พิจารณาว่าจะดำเนินการคัดเลือกผู้เหมาะสม ที่คณะกรรมการสรรหาฯ คัดเลือกไว้ หรือจะเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ ก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้การทำงานของทั้ง สกสค. องค์การค้าฯ และคุรุสภา ดำเนินไปตามปกติไม่มีปัญหา เพราะยังมีรักษาการทำงานอยู่ เพียงแต่ยังไม่มีตัวจริง
นายอรรถพล กล่าวว่า ตนได้เข้าชี้แจงต่อศาลแล้ว ถือเป็นการไต่สวนนัดสุดท้าย สิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงของศาล ส่วนรายละเอียด ว่าชี้แจงอะไรบ้างนั้น ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในศาล จากนี้จะต้องฟังคำตัดสินในวันที่ 15 กรกฎาคม หากศาลมีคำตัดสิน หรือข้อเสนอแนะมาอย่างไร ก็ต้องดำเนินการตามนั้น