นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาหารือเกี่ยวกับการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เลขาธิการคุรุสภา และผู้อำนวยการองค์การค้า(อค.) ของสกสค. เพื่อหาแนวทางแก้ไข ทั้งนี้ในส่วนที่นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการศธ. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค. ไปยื่นอุทธรณ์ ต่อศาลปกครองกลางกรณี ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติและเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งนายณรงค์ แผ้วพลสง ผู้ตรวจราชการศธ. เป็นเลขาธิการสกสค. เนื่องจากมีหลายประเด็นที่ศาลมีคำพิพากษา สวนทางกับคำฟ้องนั้น ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งทราบว่า ทางคระกรรมการสกสค. ก็ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลไปเช่นกัน
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่สหภาพแรงงานองค์การค้าฯ เร่งรัดให้แต่งตั้งและทำสัญญาจ้าง นายอดุลย์ บุสสา อดีตรองผู้อำนวยการองค์การค้าฯ เป็นผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ตามมติคณะกรรมการองค์การค้าฯ เนื่องจากศาลปกครองกลาง ให้เพิกถอน มติคณะกรรมการสกสค. กรณีแต่งตั้งนายณรงค์ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.เท่านั้น ไม่ได้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การค้าฯ นั้น ยังไม่ดำเนินการตอนนี้ ขอให้รออีกนิดหนึ่ง แต่จากการทำงานมากว่า 1 เดือน ก็พอทราบปัญหา และรายละเอียดพอสมควร เพียงแต่ขอดูให้รอบคอบ
“ทั้ง 3 ตำแหน่งถือว่ามีความสำคัญ ตอนนี้อยู่ระหว่างเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยจะดูทุกเรื่องที่ค้างคา เพื่อพิจารณาว่า เรื่องใดบ้างที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะกรณีที่มีการฟ้องร้อง และแพ้คดี ต้องมีการชำระหนี้ต่อศาลว่าจะกันเงินตรงส่วนใดมาบริหารจัดการได้บ้าง ผมกำลังเร่งเรื่องที่ค้างอยู่ทั้งหมด” นายณัฏฐพลกล่าว
ด้านนายอรรถพลกล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมการสกสค.ยื่นอุทธรณ์ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการ ทราบว่า ยื่น 2 ประเด็นคือ กรณีให้เพิกถอนมติคณะกรรมการสรรหาที่เลือกนายณรงค์ เป็นเลขาธิการสกสค. และอุทธรณ์กรณีที่ตนมอบหมายให้ นายวิมล จำนงบุตร รองเลขาธิการสกสค. ทำหน้าที่แทนเลขาธิการสกสค. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากนายวิมล เป็นผู้ที่ตนแต่งตั้งขึ้นเป็นรองเลขาธิการสกสค. ศาลเห็นว่า การมอบอำนาจดังกล่าว เป็นสภาพร้ายแรง เพราะเจตนารู้อยู่แล้วว่า นายวิมล ต้องเข้าไปลงคะแนนเสียงเลือกตน แต่ก็ยังมอบหมาย ซึ่งประเด็นนี้อุทธรณ์ตรงกับตนเอง และคงเป็นครั้งแรกที่ผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้องอุทธรณ์ตรงกัน ทั้งนี้เห็นว่าการมอบอำนาจให้นายวิมล เข้าประชุมถือว่าชอบด้วยกฎหมาย แต่การลงคะแนนอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นายอรรถพลกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามต้องรอผลการพิจารณาของศาล ซึ่งคงใช้เวลาระยะหนึ่ง ส่งผลให้การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ต้องชะลอไปด้วย เพราะคำพิพากษาของศาลอาจมีผลต่อมติการคัดเลือกผู้อำนวยการองค์การค้าฯ เช่นกัน ดังนั้นระหว่างนี้นายณัฏฐพล คงต้องเร่งพิจารณาผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ แทนนายวีระกุล อรัณยะนาค ผู้ตรวจราชการศธ. ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ที่จะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายนนี้
