อดีตอธิการ มนพ.ลุ้นศาลตัดสิน 30 ต.ค.ฟ้อง ‘นายก-กก.สภา’ มีมติถอดไม่ชอบ

เมื่อวันที่ 15 กันยายน นายสุวิทย์ เลาหศิริวงศ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม (มนพ.) เปิดเผยว่า กรณีมีรายงานข่าวว่าสภา มนพ.ในสมัยที่นายภาวิช ทองโรจน์ เป็นนายกสภา เคยมีมติปลดอธิการบดี เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการบริหาร และไม่ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงานนั้น แม้สภาจะมีมติถอดถอนตนออกจากตำแหน่งจริง โดยเมื่อเดือนสิงหาคม 2557 ที่สภามีมติถอดถอนตนจากตำแหน่งอธิการบดี เนื่องจากไม่ผ่านการประเมิน และตนได้ไปฟ้องศาลปกครองอุดรธานี พร้อมทั้งขอความคุ้มครองชั่วคราว ต่อมาศาลได้มีคำพิพากษาให้คุ้มครองชั่วคราว ให้ตนได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ในเดือนมกราคม 2558

นายสุวิทย์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม สภามีวาระลับขึ้นมาพิจารณาออกคำสั่งพักงานชั่วคราวตน พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสืบวินัยร้ายแรง และออกข้อบังคับใหม่ จากเดิมที่ มนพ.ใช้ข้อบังคับการดำเนินการทางวินัยโดยอิงระเบียบราชการ ที่การดำเนินการทางวินัยกับอธิการบดีนั้น เป็นอำนาจของเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) แต่สภา มนพ.ออกข้อบังคับ มนพ.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัยต่อผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหาร พ.ศ.2558 ซึ่งเป็นข้อบังคับใหม่ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัยกับผู้บริหาร ที่ให้อำนาจนายกสภา มนพ.ตนจึงฟ้องนายกสภา และกรรมการสภา ต่อศาลปกครองอุดรธานีในคดีดังกล่าวเพิ่ม ในเรื่องการออกข้อบังคับโดยมิชอบ ซึ่งการฟ้องทั้ง 2 คดี ศาลตัดสินให้ตนชนะในชั้นต้น และขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทรณ์ในชั้นต่อไป

“นอกจากนี้ ผมได้ฟ้องนายกสภา และกรรมการสภา ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ขอนแก่น อีกหนึ่งคดี คือการถอดถอนผมออกจากตำแหน่งอธิการบดีโดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และมาตรา 91 เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ศาลลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป แต่ไม่ว่าจะมีการเพิ่มโทษ ลดโทษ หรือลดมาตราส่วนโทษด้วยหรือไม่ก็ตาม ซึ่งศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ แม้จะมีรายงานข่าวที่เสนอว่าสภาเคยถอดถอนอธิการบดีมาแล้ว 1 ครั้ง แม้จะเป็นเรื่องจริง แต่ก็มีปัญหาตามมาหลายเรื่อง นอกจากนี้ ผม และทนายอยู่ระหว่างพิจารณาฟ้องแพ่งอีกด้วย ในเรื่องที่ดำเนินการโดยมิชอบ ทำให้ผมเสื่อมเสียชื่อเสียง และออกจากตำแหน่งก่อนกำหนด ทำให้เสียรายได้” นายสุวิทย์ กล่าว

ด้านนายภาวิช กล่าวว่า ที่สภามีมติปลดนายสุวิทย์ออกจากตำแหน่งอธิการบดีนั้น เป็นเรื่องจริง เพราะไม่ผ่านการประเมิน เนื่องจากนายสุวิทย์มีปัญหาในการบริหารงาน ยืนยันว่าสภาดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างถูกต้อง ถือเป็นสิทธิของนายสุวิทย์ในการยื่นฟ้องต่อศาลในประเด็นต่างๆ ตน และกรรมการสภา พร้อมที่จะสู้คดีต่อไป ซึ่งตนไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากนัก เพราะขณะนี้ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการของกฎหมายแล้ว ต้องว่าไปตามกฎหมาย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image