‘คุณหญิงกัลยา’ แถลงผลงานในรอบ 3 เดือน ดึง ‘ปลื้ม สุรบถ’ คิดสื่อสมัยใหม่ให้ความรู้ประวัติศาสตร์
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แถลงข่าวผลงานในรอบ 3 เดือน ว่า ตามที่ ศธ.มีนโยบายขับเคลื่อนการเรียนการสอนโค้ดดิ้งในโรงเรียนทุกระดับอย่างรูปธรรม เพื่อมุ่งพัฒนานักเรียนไทยให้มีทักษาการคิด วิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล โดยจัดตั้งคณะทำงาตด้านการพัฒนาการสอนและการเรียนรู้วิทยาการคำนวณ โดยคณะทำงานฯ กำหนดวิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์การดำเนินงาน 4 ข้อ ได้แก่ การสร้างความตระหนักและการรับรู้ การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา การยกย่องเชิดชูเกียรติสถานศึกษาและบุคลากรด้านโค้ดดิ้ง และสร้างเครือข่ายและชุมชนแห่งการเรียนรู้ ทั้งนี้การพัฒนาครูเกี่ยวกับโค้ดดิ้งนั้น ทางสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกันจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการจัดการเรียนรู้วิชาการคำนวณและโค้ดดิ้ง หรือหลักสูตร Coding for Teachers ให้กับผู้บริหารโรงเรียน และครูสอนวิทยาศาสตร์ จำนวน1,050 คน จาก 350 โรงเรียน เพื่อพัฒนาครูผู้บริหารให้ครูมีความเข้าใจในมาตรฐานหลักสูตรและตัวชีวัดวิชาวิทยาการคำนวณ รวมทั้งรู้จักวิธีการจัดการเรียนรู้ สามารถนำความรู้ไปจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษาของตนอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการเรียนการสอนโค้ดดิ้งนั้นจะเริ่มอย่างจริงจังในเดือนพฤศจิกายน 2562 ต่อไป
คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนได้มอบหมายงานให้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี และวิทยาลัยประมง 47 ในสังกัดคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) แห่งทั่วประเทศ สร้างเกษตรรุ่นใหม่ ให้สอดคล้องกับโลกในศตวรรษที่ 21 ขณะเดียวกันมุ่งยกระดับสมรรถนะให้กับเกษตรกรไทยทั้งประเทศกว่า 20 ล้านคน วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี และวิทยาลัยประมง จึงต้องยกระดับสมรรถนะการจัดการศึกษาตามความเชี่ยวชาญ จุดเด่น ของแต่ละวิทยาลัยมีฟาร์มที่ทันสมัย เป็นตัวอย่างให้กับเกษตรและผู้ประกอบการธุรกิจการเกษตรได้จริง และเป็นตัวอย่างในการผลิตอาหารปลอดภัยตนสั่งการให้วิทยาลัยทั้ง 47 แห่ง เป็นพื้นที่ปลอด 3 สารเคมี คือ พาราควอต ไกลโฟเชต และคลอร์ไพริฟอส
“ส่วนการทำงานต่อไปคือ ต้องการจัดการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ผ่านสื่อสมัยใหม่ โดยดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นคณะทำงานขับเคลื่อนการจัดการเรียนการสนประวัติศาสตร์ คือ นายสุรบถ หลีกภัย เข้ามาช่วยคิดสื่อสมัยใหม่ เช่น การแร็ป การแหล่ สร้างเนื้อหาประวัติศาสตร์ที่มีเนื้อหาที่เข้าใจยาก ให้ง่ายต่อการฟัง ดึงดูดเด็กรุ่นใหม่ให้สนุกกับการเรียนประวัติศาสตร์มากขึ้น ไม่น่าเบื่อเหมือนเดิม ซึ่งขณะนี้คณะทำงานฯ กำลังคิดสร้างสื่อใหม่ๆอยู่ หากเสร็จเมื่อไหร่ สามารถเผยแพร่ได้ทันที” คุณหญิงกัลยา กล่าว
