เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (167) 成语故事 (一六七)

(ที่มาภาพ : https://image.baidu.com/search)

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 双管齐下/雙管齊下 shuānɡ ɡuǎn qí xià (ชวาง กว่าน ฉี เซี่ย) โดย คำว่า 双/雙shuānɡ (ชวาง) แปลว่า คู่ เป็นคู่ 管 ɡuǎn (กว่าน) เฉพาะในบทความนี้จะแปลว่าด้าม แท่ง สรรพนามของพู่กัน และอาจหมายถึงพู่กันด้วย 齐下/齊下 qí xià (ฉี เซี่ย) แปลว่าลงมือพร้อมกัน ดำเนินการไปพร้อมกัน เมื่อรวมกันแล้วแปลว่า ทำสองสิ่งไปพร้อมๆกัน ใช้สำหรับอธิบายการกระทำสองอย่าง หรือแนวทางการดำเนินงานสองแนวทาง ที่ต้องดำเนินไปพร้อมๆกันทั้งสองด้าน

ในบรรดาศิลปะแขนงต่างๆของจีนนั้น ภาพวาดจีนนับเป็นองค์ประกอบสำคัญของศิลปวัฒนธรรมจีน ซึ่งภาพวาดจีนจะมีเอกลักษณ์ที่ต่างจากชนชาติอื่นๆ คือจะใช้พู่กัน 毛笔 máobǐ (เหมาปี่) กระดาษเซวียนจื่อ 宣纸 xuānzhǐ (เซวียนจื่อ) และน้ำหมึก墨水 mòshuǐ (มั่วฉุ่ย) เป็นอุปกรณ์หลักในการวาดภาพจีน ประวัติศาสตร์ของการวาดภาพจีนก็มีความเป็นมาอันยาวนานพร้อมๆกับประวัติศาสตร์จีนเลยทีเดียว

ด้วยประวัติศาสตร์ของการวาดภาพจีนที่มีมาอย่างยาวนานนี้เอง จึงทำให้มีสุดยอดนักวาดหรือศิลปินในศาสตร์นี้เกิดขึ้นมากมายตามแต่ละยุค โดยหนึ่งท่านในนั้นนามว่าจางเจ่า 张璪 Zhānɡ Zǎo เป็นศิลปินสมัยราชวงศ์ถัง 唐朝 Tánɡchǎo (ถัง เฉา) ล่ำลือกันว่าจางเจ่าคือเซียนแห่งการใช้พู่กันวาดภาพ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว จางเจ่านั้นไม่ใช่ศิลปินโดยอาชีพ เขาเป็นข้าราชการในราชสำนักถัง แต่เป็นคนที่เอาดีในทางราชการไม่ค่อยได้ ตำแหน่งขึ้นๆ ลง ไร้ความมั่นคง จากตำแหน่งใหญ่โตในราชสำนัก ในระดับศูนย์กลางไปสู่ระดับมณฑล และยังถูกลดระดับลงไปเรื่อยๆ จนถึงระดับตำบลเลยทีเดียว แม้นว่าจางเจ่าจะเอาดีทางด้านอาชีพข้าราชการไม่ได้ แต่ว่าจางเจ่ามีดีอย่างหนึ่ง นั่นคือการเขียนภาพวาดจีน

ฝีมือการวาดภาพของเขาก็โด่นเด่นยากที่จะหาใครเทียบทานได้ เพราะจางเจ่ามีความสามารถในการใช้สองมือซ้ายขวาวาดภาพไปพร้อมๆ กันสองภาพ เขาชอบวาดภาพจำพวกต้นสน หิน ภูเขา และแม่น้ำ และเขาก็ต้องเตรียมอุปกรณ์การวาดสองชุดเสมอ โดยภาพวาดที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากก็คือภาพวาดต้นสน ในขณะที่เขาวาดภาพนั้น มือขวาของเขาจะจับพู่กันสะบัดไปมาบนผืนกระดาษ เป็นภาพต้นสนในฤดูใบไม้ผลิ ต้นสนที่วาดออกมามีใบเต็มต้นแลดูสดชื่นมีชีวิตชีวา ในขณะเดียวกัน มือซ้ายของเขาก็จะจับพู่กันอีกด้ามวาดภาพต้นสนที่ยืนต้นตาย ไร้ใบไร้ชีวิต แต่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้ดี ที่สำคัญภาพวาดทั้งสองได้วาดเสร็จในเวลาเดียวกัน และภาพทั้งสองก็สื่ออารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่าง จนผู้คนตั้งสมญานามให้กับภาพวาดของจางเจ่าว่า ผลงานระดับเทพ 神品 shénpǐn (เฉินผิ่น) ส่วนตัวของจางเจ่าก็ได้รับการขนามนามว่า ศิลปินสองมือ 双管齐下/雙管齊下 Shuānɡ ɡuǎn qíxià (ชวาง กว่าน ฉีเซี่ย) ซึ่งคำนี้ต่อมาใช้อธิบายการกระทำสองอย่าง หรือแนวทางการดำเนินงานสองแนวทาง หรืออาชีพสองอาชีพ ที่ดำเนินไปพร้อมๆกันทั้งสองด้าน

Advertisement

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

成语比喻:做一件事两个方面同时进行或两种方法同时使用。

成語比喻:做一件事兩個方面同時進行或兩種方法同時使用。

Advertisement

Chénɡyǔ bǐyù: Zuò yījiàn shì liǎnɡ ɡè fānɡmiàn tónɡshí jìnxínɡ huò liǎnɡ zhǒnɡ fānɡfǎ tónɡshí shǐyònɡ.

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่ : จั้ว อีเจี้ยน ฉื้อ เหลี่ยง เก้อ ฟางเมี่ยน โถงฉือ จิ้นสิง ฮั่ว เหลียง โจ่ง ฟางฝ่า โถงฉือ ฉื่อโย่ง

สุภาษิตเปรียบว่า การกระทำการสิ่งหนึ่งที่ดำเนินการไปพร้อมกันสองแนวทางหรือสองแนวทางดำเนินไปพร้อมกัน

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

全球出现国际争端,各国需要外交与政治两种手段双管齐下,才能解决。

全球出現國際爭端,各國需要外交與政治兩種手段雙管齊下,才能解決。

Quánqiú chūxiàn ɡuójì zhēnɡduān, ɡèɡuó xūyào wàijiāo yǔ zhènɡzhì liǎnɡ zhǒnɡ shǒuduàn shuānɡ ɡuǎn qíxià, cáinénɡ jiějué.

เฉวียนฉิว ชูเซี่ยน กั๋วจี้ เจิงตวัน, เก้อกั๋ว ซวีเหย้า ไว่เจียว ยหวี่ เจิ้งจื้อ เหลียง โจ่ง โฉ่วตวั้น ชวาง กว่าน ฉีเซี่ย,ไฉเหนิง เจี่ยเจว๋

เกิดวิกฤตขัดแย้งในนานาชาติ ทุกประเทศต้องใช้ทั้งการทูตและการเมืองดำเนินการไปพร้อมๆกันทั้งสองด้าน จึงจะแก้ไข วิกฤตได้

ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image