เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ รักษาการเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เปิดเผยว่า นายณัฐฏพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.ได้ย้ำให้ตนพัฒนางานการศึกษาตามอัธยาศัยให้เข้าถึงประชาชนทุกระดับ และนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน พัฒนาบุคลากรมากขึ้น โดยเฉพาะนางกนกวรรณได้ให้นโยบาย “กศน. WOW WOW ก้าวสู่ยุคดิจิทัล” โดยเน้นให้ กศน.ใช้เทคโนโยลีมาพัฒนาบุคลากรให้มากขึ้น เพื่อให้บุคลากรสามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้มากขึ้น พร้อมกับปรับ กศน.ในด้านต่างๆ ให้ทันสมัยด้วย เช่น ด้านการสื่อสาร การพัฒนาเครือข่ายออนไลน์ เพื่อให้คนเข้าการศึกษาตามอัธยาศัยได้มากขึ้น
“ถือเป็นงานใหญ่ที่ กศน.ต้องปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย เพราะการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยจะต้องเข้าถึงทุกคนในสังคม ที่สำคัญการส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิต เป็นเรื่องที่ กศน.จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง” นายดิศกุล กล่าว
นายดิศกุลกล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการจัดทำหลักสูตรกัญชาพาเรียนวิทยาศาสตร์นั้น ขณะนี้ กศน.อยู่ระหว่างการพัฒนาหลักสูตรเพื่อการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเรียนรู้ได้ และคาดว่าจะสามารถใช้ได้ทันในปีการศึกษา 2563 โดยจะสอนเป็นวิชาเลือก ในระดับมัธยมศึกษาของ กศน.และเป็นวิชาในการศึกษาภาคประชาชน เพื่อให้ประชาชนที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้
“ส่วนจะเปิดสอนระดับประกาศนียบัตรได้หรือไม่นั้น ทำได้ เพราะถึงเป็นการศึกษาต่อเนื่อง แต่เบื้องต้นถ้าเปิดสอนหลักสูตรนี้ในปีการศึกษา 2563 การเปิดสอนในระดับประกาศนียบัตร อาจทำไม่ทัน ซึ่งการจัดทำหลักสูตรกัญชาเพื่อการเรียนรู้ กศน.ร่วมมืออภัยภูเบศร และกระทรวงสาธารณาสุข คิดเนื้อวิชา และองค์ความรู้ต่างๆ ซึ่งนอกจากจะให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจในเรื่องของกัญชาแล้ว ยังได้เพิ่มความรู้เรื่องของกัญชงเข้าไปด้วย” นายดิศกุล กล่าว
นายดิศกุลกล่าวอีกว่า นอกจากตำแหน่งเลขาธิการ กศน.ที่ถือเป็นหน้าที่หลักที่ตนรับผิดชอบ และต้องเร่งพัฒนาแล้ว ผู้บังคับบัญชายังไว้วางในให้ตนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ด้วย เพราะมองว่าเป็นคนกลาง ไม่มีผลประโยชน์กับใคร และสามารถสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่ายได้