‘ณัฏฐพล’ มึน ‘เด็กผี-ครูผี’ โผล่ตรึม เร่งผุดระบบตรวจสอบรับเปิดเทอมปี’63

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ประจำปี 2562 ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ย้ำเรื่องการประเมินภายนอกที่จะต้องนำไปสู่คุณภาพการศึกษา ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนต้องทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วน ว่าการประเมินภายนอกของ สมศ.เป็นการเข้ามาให้การช่วยเหลือพัฒนา ไม่ใช่การจับผิด ขณะเดียวกัน ศธ.ต้องช่วยคิดวางระบบการประเมินคุณภาพร่วมกันให้เหมาะสม และถูกต้อง เพื่อนำไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือทำให้ทุกโรงเรียนในประเทศไทยมีคุณภาพการศึกษาระดับที่ใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะอยู่มุมใดของประเทศ

นายณัฏฐพลกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ได้ศึกษาองคาพยพของการศึกษาแล้ว เชื่อว่าไปสู่จุดหมายที่ต้องการได้อย่างแน่นอน เพียงแต่บางเรื่องต้องใช้เวลา ความพยายาม ความตั้งใจ และความเข้าใจร่วมกัน เช่น เรื่องข้อมูลโรงเรียน ข้อมูลครู หรือข้อมูลการพัฒนาครู และผู้บริหาร ต้องกล้าเอาปัญหาทั้งหมดมาวาง แล้วดูว่าติดขัดอะไร เพื่อแก้ไข เพราะครูเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนการศึกษาไทย จึงต้องพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษา พร้อมที่จะปรับปรุงพัฒนาเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของประเทศไทยที่จะก้าวไปในศตวรรษที่ 21 หากปรับปรุงการศึกษาในหลายด้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ย่อมส่งผลต่อการพัฒนาเด็ก และเยาวชนในอนาคต

“บางโรงเรียนที่ผมเคยไปตรวจเยี่ยม พบว่ามีนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนไว้ 600 กว่าคน แต่วันนั้นนักเรียนหายไป 100 คน พอถามผู้อำนวยการโรงเรียนก็ตอบไม่ได้ กรณีนี้ สมศ.ต้องดูจำนวนเด็กที่ลงทะเบียนในโรงเรียนด้วยว่ามีตัวตนจริงหรือไม่ และเด็กหายไปไหน ส่วน ศธ.กำลังจัดทำระบบเทคโนโลยีเพื่อให้เข้าไปดูจำนวนเด็กได้ ต่อไปจะไม่มีนักเรียนผี ครูผี เพราะถือเป็นการใช้งบประมาณอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ยุติธรรมสำหรับคนอื่น คาดว่าจะได้เห็นระบบตรวจสอบดังกล่าวในช่วงเปิดเทอมเดือนพฤษภาคม 2563 ผมมั่นใจว่าทำได้แน่นอน โดยจะเป็นระบบที่มีการตรวจสอบข้อมูลในเวลา 9 โมงเช้าของทุกวัน สมศ.สามารถใช้ระบบนี้ไปเช็ค หรือสุ่มตรวจจำนวนนักเรียนได้ แบบนี้ถือเป็นการประเมินรอบด้านแบบ 360 อย่างแท้จริง” นายณัฏฐพล กล่าว

นายณัฏฐพลกล่าวต่อว่า สำหรับการเข้าสู่ตำแหน่งต่างๆ ที่ผ่านมา ยอมรับว่ายังคงใช้ความสัมพันธ์ หรือเครือข่ายในการคัดคนเข้าสู่ตำแหน่ง แต่ต่อไปต้องเลิก ต้องเปลี่ยนวิธีการสรรหา โดยเปิดโอกาสให้คนที่มีความสามารถ มีโอกาสเติบโตอย่างเท่าเทียมกัน ไม่จำเป็นต้องรู้จัก หรือสนิทกัน ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถมากพอ ไม่มีข้อครหานินทา แม้วันนี้อาจจะยังทำได้ไม่เต็มที่ก็ไม่เป็นไร แต่ต้องช่วยกันทำระบบที่ยุติธรรมเช่นนี้ให้เกิดขึ้นจริง ไม่เช่นนั้นคุณภาพการศึกษาไปไม่ได้” นายณัฏฐพล กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image