‘วราวิช’ เลื่อนคลอดพิมพ์เขียว ยันโครงสร้างศธ. เสร็จต้นปี 63

‘วราวิช’ เลื่อนคลอดพิมพ์เขียว ยันโครงสร้างศธ. เสร็จต้นปี 63

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม นายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้าง ศธ. ว่า จากการหารือครั้งนี้ ยังไม่มีข้อสรุปโครงสร้าง ศธ. จากการรับฟังแนวทางการปรับโครงสร้างที่แต่ละหน่วยงานเสนอมา ไม่แตกต่างกันมากนัก ถือเป็นแนวทางที่ใกล้เคียงกัน ตนไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ แต่ได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานกลับไปวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของแนวทางการปรับโครงสร้างที่วางไว้ และมาเสนอที่ประชุมอีกครั้งในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคม 2563 คาดว่าจะสรุปรูปแบบโครงสร้าง ศธ.ได้สำเร็จภายในต้นปี 2563 นี้ เบื้องต้นรูปแบบโครงสร้าง ศธ.นั้น จะไม่มีการยุบหน่วยงานใด แต่จะดูบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ ให้ชัดเจนมากขึ้น เพราะขณะนี้บางหน่วยงานยังมีหน้าที่ ความรับผิดชอบไม่ชัดเจนมากนัก อย่างเช่น การทำงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สทพ.) และศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ที่การทำงานอาจจะทับซ้อนกัน จะทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ที่ประชุมหารือถึงการศึกษาเอกชนเช่นกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ และในการประชุมครั้งนี้ ตนได้แบ่งโจทย์พร้อมกับรวบรวมข้อเสนอและวิธีการปรับโครงสร้างที่เหมือนกันเข้ามาไว้ด้วยกัน ให้เกิดความชัดเจนในการหารือครั้งต่อไปด้วย

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ที่ประชุมได้หารือหรือไม่เรื่องที่สภาการศึกษา (สกศ.) ขอกลับมาอยู่ภายใต้สังกัดศธ. เนื่องจากตามร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ สกศ.จะปรับไปเป็นสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน อยู่ในกำกับการดูแลของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาต่อศธ.ในการกำกับดูแล นายวราวิช กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้หารือ ขณะนี้ตนเพียงรับฟังแนวทางการปรับโครงสร้างของแต่ละหน่วยงาน จากที่มอบการบ้านในการประชุมครั้งที่ผ่านมาเท่านั้น

“คาดว่าต้นเดือนมกราคม จะได้ต้นแบบและวิธีการปรับปรุงโครงสร้าง ศธ.ที่ชัดเจน อาจจะล่าช้าออกไปบ้างจากที่กำหนดให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ แต่ก็กินระยะเวลานิดเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผมได้เน้นยำกับที่ประชุมว่าการปรับโครงสร้างนั้นเป็นหนึ่งในหลายๆ เรื่อง ที่ศธ. ต้องทำ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการศึกษา แต่ไม่ใช่ว่าปรับโครงสร้าง ศธ.แล้วจะทำให้เด็กเก่งขึ้น แต่เราต้องปรับเพื่อให้การทำงานคล่องตัว เพื่อลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน แต่ละคนต้องรู้บทบาทหน้าที่ของตนเองให้ชัดเจน นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวคือทำให้คุณภาพการศึกษาดีขึ้น ทั้งนี้ ศธ.ยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก เช่น พัฒนาครู ผู้อำนวยการสถานศึกษา เป็นต้น และหลักการของการปรับโครงสร้างศธ. ครั้งนี้ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ ต้องเน้นพัฒนาการศึกษาเป็นหลัก” นายวราวิช กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image