เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน CTC Open House 2019-2020 ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีจรัลสนิทวงศ์ ว่า งานครั้งนี้ทำให้เห็นถึงความร่วมมือของผู้ประกอบการ เป็นการสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกประสบการณ์การทำงานเพิ่มเติม และยังได้รับเงินเดือนมีรายได้ระหว่างเรียน ซึ่งขณะนี้ทางสถานประกอบการมีความต้องการนักเรียน นักศึกษาให้เข้ามาฝึกงาน และจากที่ตนได้สอบถ้านักเรียน นักศึกษาส่วนใหญ่สะท้อน ว่ามีความสุขและสิ่งที่ได้เรียนรู้มากขึ้น ส่วนที่ผู้ปกครองยังกังวลเรื่องปัญหานักเรียนอาชีวะตีกัน ทำให้ไม่อยากส่งลูกเข้ามาเรียนนั้น คิดว่าการประชาสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงบริบทของอาชีวะฯในรูปแบบใหม่ เป็นอาชีวะที่มีทักษะ มีความสามารถในการดำรงชีวิตได้ มีงานทำ นอกจากนี้ยังมีโครงการสานพลังประชารัฐ คอนเน็กซ์ อีดี ที่มีเอกชนหลายภาคส่วน ที่รอศธ. ขยับความยืดหยุ่นของหลักสูตร ซึ่งคาดว่า อนาคตจำนวนความต้องการแรงงานที่จบสายอาชีพในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อีก 2 ปี จะอยู่ที่ประมาณ 2,000,000 คน ฉะนั้นเรายังมีเวลา ที่จะปรับหลักสูตรเพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมที่จะเข้าทำงาน มั่นใจว่า เมื่อภาคเอกชน เห็นว่าเด็กอาชีวะมีทักษะตรงกับความต้องการก็จะตัดสินใจ รับเด็กเข้าทำงานมากขึ้น
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการพัฒนาหลักสูตรภาษาอังกฤษนั้น ระยะสั้น อาจจะต้องเพิ่มครูต่างชาติทั้ง เด็กปฐมวัย เด็กประถมศึกษาและระดับอาชีวะ เพราะขณะนี้ครูที่จบเอกภาษาอังกฤษ ยังมีทักษะยังไม่เพียงพอ จึงต้องพยายามหาทางจัดสรรงบเพิ่มจำนวนครูต่างชาติที่จะมาสอนทักษะภาษาอังกฤษ หรือการสื่อสารภาษาอังกฤษโดยตรง ส่วนระยะยาว ในอีก 2-3 ปีจากนี้ไป กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) จะสามารถผลิตครูที่มีทักษะต่าง ๆ โดยด้านภาษาอังกฤษที่สามารถทดแทนหรือใกล้เคียงกับครูต่างชาติได้
