ม็อบครูแต่งดำกว่า 500 คน บุกศธ. ค้านโอน ‘ศึกษานิเทศก์-ตสน.-ICT’ ไปอยู่ ศธจ. ชี้ 17 ม.ค.เตรียมพลกว่า 3 พัน ยื่นหนังสือถึงนายกฯ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 มกราคม ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้แทนศึกษานิเทศก์(ศน.) บุคลากรกลุ่มตรวจสอบภายใน(ตสน.) และบุคลากรกลุ่มเทคโนโลยีและสารสนเทศทางการศึกษา(ICT) จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ กว่า 500 พร้อมป้ายข้อความระบุว่า “ศึกษานิเทศก์ ตรวจสอบภายใน ICT และบุคลากรทางการศึกษา คัดค้านไม่ไปรวมกันศึกษาธิการจังหวัด” “ไม่ไป ไม่ย้าย ไม่โอน เราจะอยู่ที่เดิม” “สพฐ.ช่วยด้วย เขาจะพรากลูกไปแล้ว” “คัดค้านไม่ไป ศธจ.” เป็นต้น รวมตัวยื่นหนังสือคัดค้านเรื่อง การถ่ายโอนศึกษานิเทศก์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไปสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ต่อนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่า ศธ. และนายประเสริฐ บุญเรือง ปลัด ศธ. โดยมีนายธีรพงษ์ สารแสน รองปลัด ศธ. รับเรื่องแทน
นายสกุล หุ่นวัน ผู้อำนวยการกลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษา (สพป.) พิจิตร เขต 2 กล่าวว่า ตามที่มีข่าวความเคลื่อนไหวจะมีการถ่ายโอนศึกษานิเทศก์ หน่วยตรวจสอบภายใน และกลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกลและสารสนเทศ ของ สพป.และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สมพ.) ไปอยู่กับสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)นั้น ศึกษานิเทศก์ทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายใน และเจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกลและสารสนเทศ รู้สึกตื่นตกใจและไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าเหตุใดศธ. จึงเร่งดำเนินการทั้งที่โครงสร้างกระทรวงที่ปรับปรุงใหม่ในภาพรวมทั้งหมดยังไม่ได้ข้อสรุป และจากผลการสำรวจข้อมูลพบว่าศึกษานิเทศก์ ร้อยละ 84 ต้องการอยู่เขตพื้นที่เหมือนเดิม ร้อยละ 19 ต้องการเป็นองค์กรอิสระและมีเพียงร้อยละ 0.38 ต้องการไปอยู่ ศธจ.
นายสกุล กล่าวต่อว่า ข้อเรียกร้องของศึกษานิเทศก์ทั่วประเทศที่เสนอต่อศธ. คือ ขอให้เลิกล้มแนวคิดและนโยบายที่จะรวมศึกษานิเทศก์ให้ไปปฏิบัติงานที่เดียวกับ ศธจ.หรือหน่วยงานอื่นใด ที่คิดว่าสามารถนิเทศโรงเรียนหรือสถานศึกษาได้ทุกสังกัด เพราะหากให้ศึกษานิเทศก์แต่ละสังกัดมารวมกันที่ ศธจ.เพียงแห่งเดียว ทำให้รูปแบบในการนิเทศไม่มีประสิทธิภาพ และจะทำให้ไกลจากครู และสถานศึกษา เสียเวลาในการเดินทาง เสียเงินงบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชน
“การคิดจะปรับโครงสร้างดังกล่าว ทำลายขวัญและกำลังใจศึกษานิเทศก์โดยตรง เพราะ ศึกษานิเทศก์แต่คน มีภูมิลำเนาอยู่ในท้องถิ่น/อำเภอต่างๆ การให้ศึกษานิเทศก์ไปรวมอยู่ที่จังหวัด จึงเป็นการเสียเงิน เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น เมื่อบุคลากรขาดขวัญกำลังใจ ปฏิบัติงานไม่เต็มความรู้ความสามารถ หรือปฏิบัติงานแบบไม่มีประสิทธิภาพ ศึกษานิเทศก์ ต้องเดินทางไปที่ทำงาน และออกนิเทศโรงเรียนไกลขึ้น อาจมีผลกระทบด้านความปลอดภัย สุขภาพกาย สุขภาพจิต เศรษฐกิจในครอบครัว ที่ล้วนส่งผลการปฏิบัติงานที่ไม่มีประสิทธิภาพทั้งสิ้น สรุปได้ว่า การปรับโครงสร้างที่นำศึกษานิเทศก์ ไปรวมที่ศธจ. ไม่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยสิ้นเชิง เพราะเป็นการปรับโครงสร้างที่มีผลกระทบต่อตัวผู้ปฏิบัติงานโดยตรง”นายสกุลกล่าว
นายสกุลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทางกลุ่มได้ส่งตัวแทนไปยื่นเรื่องต่อหน่วยงานในสังกัด ศธ. ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) พร้อมกันนี้ส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้แทนสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาลอีกทางหนึ่งด้วย
ด้านนายธนชน มุทาพร ประธานชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (ช.ผอ.สพท.) กล่าวว่า ในวันที่ 17 มกราคมนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ครู และบุคลากรทางการศึกษา กว่า 3,000 คน จะรวมตัวแต่งชุดดำมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายณัฏฐพล และนายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษาที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ ศธ.ในฐานะประธานคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้าง ศธ. เพื่อเรียกให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ฉบับที่ 16/2560 เรื่อง การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และฉบับที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปการศึกษา นอกจากนี้อยากให้พิจารณา เรื่องให้มีคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (อ.ก.ค.ศ.สพฐ.) และขอให้ ศธ.ยุติแนวคิดที่จะถ่ายโอนศึกษานิเทศก์ หน่วยตรวจสอบภายใน และกลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกลและสารสนเทศ ไปสังกัด ศธจ.
