เมื่อวันที่ 16 มกราคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยกรณีที่ศึกษานิเทศก์ (ศน.) บุคลากรกลุ่มตรวจสอบภายใน (ตสน.) และบุคลากรกลุ่มเทคโนโลยีและสารสนเทศทางการศึกษา (ICT) จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ แต่งชุดดำเข้ายื่นหนังสือคัดค้านเรื่อง การถ่ายโอน ศน.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ไปสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) และวันที่ 17 มกราคม ผู้อำนวยการ สพท. ครู และบุคลากรทางการศึกษา กว่า 3,000 คน จะแต่งชุดดำ และเดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 16/2560 เรื่องการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ได้พูดหลายครั้งเรื่องการปรับโครงสร้าง ศธ.ทางคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้าง ศธ.ที่มีนายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ ศธ.เป็นประธาน อยู่ระหว่างพิจารณา โดยจะหารืออีกครั้งในวันที่ 24 มกราคม ทั้งนี้ ใครจะร้องเรียน ตนไม่มีปัญหา ยินดีรับฟัง แต่ถ้าร้องเรียนในสิ่งที่ยังไม่เห็นข้อเสนอ และแนวทางปรับปรุงโครงสร้าง ศธ.ของคณะกรรมการฯ ตนไม่มีคำตอบให้
“ผมยืนยัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ศธ.คำนึงถึงประโยชน์ของเด็กเป็นที่ตั้ง และการบริหารจัดการของ ศธ.ต้องมีประสิทธิภาพ ไม่ทับซ้อน เป็นความสำคัญในลำดับที่ 2 ในส่วนของกลุ่มต่างๆ ที่จะได้รับผลกระทบ ผมขอให้รอข้อเสนอที่คณะกรรมการปรังปรุงโครงสร้าง ศธ.เสนอมาก่อน แล้วจะเห็นว่ามีผลกระทบหรือไม่ จากที่ศึกษาคร่าวๆ ไม่เห็นว่าใครจะได้รับผลกระทบ มีแต่จะเพิ่มประโยชน์ เพิ่มคุณภาพให้การศึกษาไทย ขอให้ใจเย็นๆ และมั่นใจได้ว่า ศธ.ทำงานเพื่อพัฒนาปฏิรูปการศึกษาไทย ซึ่งจะต้องเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ทุกการเปลี่ยนแปลง ได้คำนึงถึงผลกระทบของทุกคน จะไม่ทำให้ครู และผู้บริหารของ ศธ.มีปัญหาที่ปฏิบัติไม่ได้” นายณัฏฐพล กล่าว
นายณัฏฐพลกล่าวต่อว่า หาก ศน.คิดว่าถ้าย้ายไปอยู่สังกัดอื่น คือต้องย้าย หรือขายบ้านนั้น ไม่จริง ทุกอย่างสามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานได้ ทำให้การทำงานสะดวกขึ้น ไม่ต้องเดินทาง และเมื่อมีสายงานที่ชัดเจน การเติบโตในตำแหน่ง ศน.จะมีเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ ต้องรอให้คณะกรรมการปรังปรุงโครงสร้าง ศธ.เสนอแนวทางมาก่อน อย่ากังวลไป หลายคนที่ไม่ทราบข้อมูล และฟังผู้นำที่พูดปลุกในเรื่องการเปลี่ยนแปลง จนทำให้แตกตื่นขึ้นมา ตนยืนยันว่าการทำงานทุกอย่าง ทำด้วยความโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการเมืองภายในหน่วยงานเองหรือไม่ นายณัฐพล กล่าวว่า หวังว่าจะไม่เป็นการเมืองภายใน หากมีความไม่พอใจในเรื่องใดก็ตาม และคิดว่าผู้บริหารของ ศธ.รวมถึง ตน ไม่ถูกต้องในเรื่องใด สามารถมาพูดคุยกันได้ ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมาย ให้ผู้บริหาร และครู เสียเวลามาที่กระทรวง จนทำให้ครูไม่มีเวลาอยู่กับนักเรียน
“ส่งตัวแทนมา 2 คน ผมก็รับฟังแล้ว ที่พูดกันว่า ถ้าไม่มาจะแพ้ เรื่องนี้ไม่มีใครแพ้ชนะ เพราะการศึกษาไทยไม่มีข้าง เรามองข้างเดียว คือนักเรียน ถ้าวันที่ 17 มกราคม จะมีกลุ่มครูเดินทางมากว่า 3,000 คน กระทบการทำงานแน่นอน เพราะจะขาดงานมาเพื่อพบรัฐมนตรีว่าการ ศธ.เพื่อพูดถึงประโยชน์ของตัวเองที่จะหายไป ผมไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้าคิดเหมาะสมแล้ว และคิดว่าเป็นแนวทางที่ทำให้การตัดสินใจของ ศธ.เปลี่ยนไป ผมยินดีรับฟัง อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจทุกอย่างขึ้นอยู่กับความถูกต้อง แต่ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องให้ผมตัดสินใจเลย จะเสียเวลามาทำไม” นายณัฏฐพล กล่าว
