เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 16 มกราคม ที่หอประชุมคุรุสภา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ร่วมพิธีคารวะครูอาวุโส เพื่อแสดงความกตัญญู และน้อมรำลึกถึงพระคุณครู โดยคารวะครู คือ น.ส.ชมภร กมลสุทธิ พร้อมกับเป็นประธานพิธีมอบรางวัลของคุรุสภา จำนวน 7 รางวัล ได้แก่ รางวัลครูภาษไทยดีเด่น เพื่อรับเข็มชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ สร รางวัลครูภาษาฝรั่งเศสดีเด่น เพื่อรับเข็มชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ กว รางวัลคุรุสภา “ระดับดี” รางวัลครูผู้สอนดีเด่น รางวัลผลงาน “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” รางวัลผลงานวิจัยของคุรุสภา และรางวัลประกวดสื่อส่งเสริมจรรยาบรรณวิชาชีพ (ประเภทหนังสั้น)
นายณัฏฐพล กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า คนสำคัญที่ทำให้การศึกษาไทยสามารถแข่งขันกับทั่วโลกได้คือครู ช่วงเช้าตนได้เรียนนายกรัฐมนตรีว่าจากที่ได้เดินทางไปหลายโรงเรียนทั่วประเทศ เห็นความมุ่งมั่น ตั้งใจ เห็นจิตวิญญาณความเป็นครู จึงขอโอกาสนี้ให้รัฐบาลพิจารณาสร้างความพร้อมให้ครู และปฏิรูปการศึกษาไทย เนื่องจากการศึกษาไทยเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเพราะการที่จะพัฒนาประเทศให้แข่งขันกับทั่วโลกได้ ครูเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนานักเรียนทั่วประเทศ ปัจจุบันไทยมีครูทั่วประเทศหลายแสนคน มีหลายคนที่ไม่ได้รับรางวัล ซึ่งตนขอใช้วันครูที่ 16 มกราคมนี้ ปลูกใจ ปลูกจิตวิญญาณครูให้ร่วมกันพัฒนาการศึกษาไทยผ่านครูที่ได้รับรางวัลในวันนี้
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าโลกเปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ต้องขยายและสอนนักเรียนให้มากขึ้นคือการสร้างคนดี ฝากครูทุกคนสอนให้นักเรียนทุกคนรักประเทศไทย ถ้าเกิดความรักประเทศไทย จะมีความมุ่งมั่น อยากให้ประเทศดีขึ้น ตนหวังว่าครูทุกคนจะช่วยให้ความรู้ ความดีกับนักเรียนทุกคนที่สอน ตนมีโอกาสไปที่เมืองจีนเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ไปศึกษาและเห็นนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ในการส่งเสริมการศึกษา สิ่งที่ศธ. วางแผน ตั้งเป้าหมายที่จะทำนั้นไม่แตกต่างจากประเทศจีนดำเนินการอยู่ ทำให้ศธ.มั่นใจว่าแนวทางที่เราจะไป ไม่ได้ห่างไกลจากประเทศที่ประสบความสำเร็จอื่นๆ ทำ สิ่งที่แตกต่างระหว่างประเทศจีนและไทย ไม่เกี่ยวกับอุปกรณ์ หรือเครื่องมือ เพราะเชื่อว่าไทยสามารถจัดหาได้ แต่สิ่งที่เห็นคือ ครูจีนทุกคนน้อมรับว่ามีความจำเป็นที่ใช้เทคโนโลยีในการสอน เช่นเดียวกันถ้าครูไทยเข้าใจและรับเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการสอน จะช่วยพัฒนาการศึกษาได้อย่างดี แม้จะยังมีครูบางคนไม่ยอมรับหรือเข้าใจเทคโนโลยีบ้าง แต่อยากให้ทุกคนเข้าใจและนำเทคโนโลยีมาปรับสอน ขณะนี้ ศธ.อยู่ระหว่างการติดอาวุธครู ให้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ จึงอยากฝากครูปรับเอาสื่อออนไลน์มาสอนอย่างสร้างสรรค์ และถูกต้อง ศธ.มีความชัดเจนในนโยบาย ว่าให้จะให้สิทธิ และให้โอกาสครูมีความก้าวหน้าในอาชีพ อย่างปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำลังศึกษาหาแนวทางแก้ไข ทำให้ครูมีเวลาในห้องเรียนมากขึ้น
“ศธ.พยายามเต็มที่ที่จะแก้ไข ปลดล็อกปัญหาที่มีอยู่ในอดีต และปลดล็อกปัญหาเพื่อให้ครูมีความเจริญเติบโตก้าวหน้าในอาชีพของตนเองได้ ขอให้ครูยึดมั่นในจิตวิญญาณของความเป็นครู ยึดมั่นในการร่วมกันพัฒนาการศึกษา และยึดมั่นในการสอนให้เด็กและเยาวชนมีความสามารถ มีศักยภาพของตน เชื่อว่าประเทศไทยจะยืนอยู่ในระดับต้นๆ ของเวทีโลกได้ มีหลายคนส่งสัญญาณว่า ประเทศไทยจะแพ้ หากการศึกษาไทยจะแพ้ ดูแล้วอาจจะน่าตกใจ แต่เป็นเรื่องจริง หากว่าการศึกษาไม่สามารถพัฒนาและยกระดับเราขึ้นมาได้ เราจะไม่สามารถยืนบนต้นๆ ของเวทีโลกได้ แต่ผมเชื่อว่าเราทุกคนถ้ารวมพลังกันสามารถทำได้ หากเข้าใจ และเดินไปในทางเดียวกันจะพ้นวิกฤติการศึกษาไทยไปได้” นายณัฏฐพลกล่าว
