‘ครูตั้น’ เล็งยกเครื่องหลักสูตรอาชีวะ ขานรับความต้องการตลาดแรงงาน
เมื่อวันที่ 28 มกราคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการอาชีวศึกษานานาชาติ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้หารือกับตัวแทนสภาหอการค้า ในประเทศต่างๆ ที่เคยร่วมงานกับ ศธ. ตนยืนยันและให้แนวทางการทำงานของศธ.กับสภาหอการค้า ประเทศต่างๆ และตนได้กระตุ้นให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงการทำงานของ ศธ. ที่ผ่านมาสภาหอการค้า ประเทศต่างๆ ได้ให้ความร่วมมืออย่างดี แต่จะร่วมมือโครงการที่ไม่ได้ใหญ่มากซึ่งเหตุผลหลักคืองบประมาณ อย่างไรก็ตามถ้าเพิ่มเติมงบประมาณตามความเหมาะสม ศธ.จะได้รับเด็กที่มีคุณภาพมากขึ้น น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาไทย แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้ยากต่อการตัดสินใจ เพราะมีงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้อง ตนจึงวางแผนร่วมกับที่ประชุมว่าต่อไปจะเจอกับสภาหอการค้าของทุกประเทศ เพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนการทำงานร่วมกัน และเพื่อทราบความต้องการของบริษัทต่างประเทศว่ามีบริษัทที่พร้อมจะลงทุนในประเทศไทย หรือบริษัทต่างประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศแล้ว ขาดบุคลากรในส่วนต่างๆ อย่างไร
“เราอาจมีตัวเลขคร่าวๆ ว่าสาขาอาชีพต่างๆ ขาดคนจำนวนเท่าใด แต่ผมอยากเห็นภาพความต้องการบุคลากร และตัวเลขที่ขาดแคลนอย่างชัดเจนก่อน เช่น หาก ศธ.คุยกับสภาหอการค้า ของประเทศอังกฤษ เยอรมัน และญี่ปุ่น ทำให้ ศธ.เข้าใจว่าในธุรกิจยานยนต์ หรือธุรกิจผลิตรถไฟฟ้า มีความต้องการอะไร ต้องการคนเท่าไหร่ ต้องการในระบบไหน แล้วรัฐบาลต้องทำอย่างไร เพื่อทำให้ประเทศกลายเป็นศูนย์การผลิตรถไฟฟ้าได้ เป็นต้น วิธิการนี้ถือเป็นการเชื่อมธุรกิจมาที่สถานศึกษาผู้ผลิตบุคลากรโดยตรง และศธ.จะกลับมาสร้างความยืดหยุ่นในการเรียนการสอนต่อไป สิ่งที่สภาหอการค้า ประเทศต่างๆ น่าจะพอใจคือความยืดหยุ่นในการเรียน เพราะศธ.มุ่งหลักสูตรที่เน้นการดำรงชีวิต และในขณะเดียวกันต้องมีแผนสำรองว่าเมื่อนักเรียนไม่มีงานทำ ไปไหนต่อไม่ได้ จะทำอย่างไรด้วย ซึ่งแปลว่าจะต้องปรับหลักสูตรอาชีวะเพื่อให้ตรงกับสายอาชีพที่ตลาดต้องการด้วย” นายณัฏฐพลกล่าว
