สช.สั่งปิด ร.ร.นานาชาติย่านดอนเมือง เฝ้าระวังโควิด-19 หลัง ‘น.ร.-ครู’ เที่ยว ปท.กลุ่มเสี่ยงกันเอง 505 คน

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเพิ่มว่าโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง มีนักเรียนเดินทางไปเที่ยวในประเทศกลุ่มเสี่ยงกับผู้ปกครองในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา โดยไปเที่ยวกันเอง จำนวน 505 คน นอกจากนี้มีครู 60 คน

โดยนักเรียนทั้ง 505 คน และครู 60 คนนั้น ไปเที่ยวกันเองที่ไม่เกี่ยวกับโรงเรียน ต่างคนต่างไปคนละทริปกัน  ไม่ได้ไปด้วยกัน แต่นับรวมกันแล้วเป็นนักเรียน 505 คนและครู 60 คน ซึ่งเป็นการไปเที่ยวในประเทศต่างๆ ที่เป็นประเทศกลุ่มเสี่ยง และเพิ่งเดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ บางทริปกลับมาเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ บางทริปกลับมาเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เบื้องต้นทางโรงเรียนได้สั่งให้กลุ่มดังกล่าวเก็บตัวอยู่ภายในบ้านพัก และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ โรงเรียนดังกล่าวมีนักเรียนทั้งหมดกว่าพันคน แม้ว่ากลุ่มที่เดินทางไปเที่ยว จะไม่ได้เข้ามาภายในพื้นที่โรงเรียน แต่เพื่อความสบายใจ สช.จึงสั่งให้ปิดโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 8 มีนาคม และเรียนผ่านระบบออนไลน์แทน ซึ่งโรงเรียนนานาชาติมีระบบนี้อยู่แล้ว

“เด็กโรงเรียนนี้มีจำนวนกว่า 1,900 คน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่เป็นวันเปิดเทอม ทางโรงเรียนพบว่ามีนักเรียนหายไปถึง 505 คน โรงเรียนจึงได้ปรึกษากับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) ทางสช.เลยให้เด็กกลุ่มดังกล่าวไม่ต้องมาเรียนซึ่งเท่ากับว่าเด็กกลุ่มดังกล่าวไม่เคยเข้ามาภายในโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ที่กลับมาถึงไทย ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการป้องกันนักเรียนรายอื่นๆ สช.จึงได้สั่งให้โรงเรียนหยุดเรียนตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์จนถึงวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งโรงเรียนจะเปิดเรียนในวันที่ 9 มีนาคม และให้เรียนผ่านระบบออนไลน์แทน พร้อมกันนี้ระหว่างปิดเรียน ทางโรงเรียนก็จะฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันด้วย” นายอรรถพล กล่าวและว่าซึ่งเท่ากับว่าเด็กทั้ง 505 คนเก็บตัวอยู่ที่บ้านมาตั้งแต่ 22-23 กุมภาพันธ์ เมื่อนับจนถึงวันเปิดเรียนที่ 9 มีนาคม ก็จะเกิน 14 วัน

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้โรงเรียนในสังกัดสช. เฝ้าระวังและปฏิบัติตามมาตรการของ สธ.อย่างใกล้ชิด แต่ที่ตนห่วงจริงๆ คือโรงเรียนนานาชาติ เพราะมีการเปิด-ปิดภาคเรียนไม่เหมือนโรงเรียนไทย และมีการไปทัศนศึกษาเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น จึงได้กำชับหากโรงเรียนใดเตรียมเดินทางไปทัศนศึกษาในต่างประเทศขอให้ทบทวนและงดเว้นการเดินทางไปก่อน โดยเฉพาะในประเทศกลุ่มเสี่ยง และจะมีการนัดประชุมโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศเพื่อชี้แจงแนวทางป้องกันในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ และน่ากังวล เพราะมีการแพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว” นายอรรถพลกล่าว

Advertisement

นายอรรถพลกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของโรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง ที่ก่อนหน้านี้พบเด็กชายอายุ 8 ขวบติดเชื้อโควิด-19 มาจากปู่ย่านั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีใครติดเชื้อเพิ่มอีกหรือไม่ แต่ได้กำชับให้ผู้บริหารดูแลและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ผู้ปกครองร้องเรียนว่าโรงเรียนนานาชาติอีกหลายแห่งที่นักเรียนเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มต่างแล้วทำไมสช.ไม่สั่งปิดเรียนนั้น ชี้แจงว่าการพิจารณาปิดโรงเรียน เป็นวิจารณญาณของผู้บริหาร ซึ่งทางโรงเรียนนานาชาติย่านดอนเมืองได้แจ้งเรื่องเข้ามายังสช. ว่ามีเด็กเดินทางไปต่างประเทศจำนวนมาก ดังนั้นจึงขอปิดการเรียนการสอนเพื่อเป็นการป้องกัน สช.จึงอนุญาตให้ปิดได้ ส่วนโรงเรียนอื่น ๆ นั้นไม่ได้แจ้งเข้ามา แต่หากมีสถานการณ์สุ่มเสี่ยงก็แจ้งขอปิด เพื่อความปลอดภัยได้เช่นกัน ทั้งนี้ขอให้โรงเรียนดำเนินการตามมาตรการ สธ.อย่างเคร่งครัด และจะต้องไม่มีการปกปิดข้อมูลอย่างเด็ดขาด

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image