ดัน 4 ร่าง กม.ศึกษาฯเข้า กมธ. 10 มิ.ย.คืนอำนาจ ‘แต่งตั้ง-โยกย้าย’ ให้ สพท.

ธนชน มุทาพร

ดัน 4 ร่าง กม.ศึกษาฯเข้า กมธ. 10 มิ.ย.คืนอำนาจ ‘แต่งตั้ง-โยกย้าย’ ให้ สพท.

พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ – เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายธนชน มุทาพร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1 ในฐานะคณะทำงานอนุกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า วันที่ 10 มิถุนายนนี้ นายสุรวาท ทองบุ ประธานอนุกรรมาธิการการศึกษาฯ จะเสนอร่างกฎหมาย 4 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครู พ.ศ. … และร่าง พ.ร.บ.สภาครู พ.ศ. … เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายนพคุณ รัฐผไท ส.ส.เชียงใหม่ เป็นประธาน ทั้งนี้ ชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (ชร.ผอ.สพท.) สนับสนุนร่างกฎหมายทั้ง 4 ฉบับ อยากผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หลุดจากกรอบแนวคิดของระบบซิงเกิลคอมมานด์ ที่สำคัญ อยากให้กฎหมายทั้ง 4 ฉบับปลอดจากการเมือง เป็นวาระแห่งชาติ ที่ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล สนับสนุน และผลักดันให้สำเร็จโดยเร็ว

นายธนชนกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่ยกร่างใหม่นี้ แตกต่างจากร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ที่คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) ชุดที่มี นพ.จรัส สุวรรณเวลา เป็นประธาน โดยจะช่วยปลดล็อกความขัดแย้ง คืนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู จากเดิมที่ กอปศ.เสนอให้เปลี่ยนเป็นใบรับรองความเป็นครู คืนตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา จากเดิมที่เสนอให้เปลี่ยนเป็นตำแหน่งครูใหญ่ ส่วนการแบ่งส่วนราชการ ศธ.ให้ออกเป็นกฎหมายโดยรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 จากเดิมที่ กอปศ.กำหนดให้เป็นอำนาจรัฐมนตรีว่าการ ศธ.

นายธนชนกล่าวอีกว่า ข้าราชการทุกคนใน ศธ.นับตั้งแต่ปลัด ศธ.ลงมาจนถึงครูผู้ช่วย บุคลากร 38 ค (2) และคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ในส่วนกลาง ให้เป็นข้าราชการครู ใช้บัญชีเงินเดือน เงินวิทยฐานะแท่งเดียวกัน ลดความเหลื่อมล้ำ คืนอำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รวมถึง กรณีให้โรงเรียนที่มีความพร้อม ให้สามารถเปลี่ยนสถานะเป็นนิติบุคคลได้ แต่ต้องถ้าผ่านการประเมินความพร้อมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ถือเป็นกฎหมายฉบับใหญ่ ที่สำคัญ ขณะนี้ถือว่าล่าช้าไปค่อนข้างมากแล้ว ดังนั้น อยากให้ทุกฝ่ายช่วยผลักดันให้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้ง 4 ฉบับนี้ ประกาศใช้โดยเร็วที่สุด เพื่อให้การพัฒนาการศึกษาต่อเนื่อง รวมถึง อยากให้จับตาการแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) ชุดที่ 2 ที่จะแต่งตั้งในเร็วๆ นี้ ว่าจะยังคงเจตนาเดิมตาม กอปศ.ชุดแรกหรือไม่ หรือจะกำหนดทิศทางการศึกษาเป็นไปตามแนวทางใด โดยอยากให้ กอปศ.รับฟังข้อเสนอจากครู และบุลคากรทางการศึกษา ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงให้มากขึ้น ไม่ใช่เพิ่มความขัดแย้ง” นายธนชน กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image